เลขาฯ สช.งานเข้า รับตำแหน่งวันแรก รีบมาหย่าศึก ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ ถกทุกฝ่ายเข้มเกือบ 2 ชม. ได้ข้อสรุปให้จัดการเรียนการสอนต่อ ขอเด็กอย่ามีส่วนร่วม แอ่นอกรับช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วน ตรวจสอบที่มาการแต่งตั้งบอร์ด ร.ร. ใช้อำนาจบริหารชอบธรรมหรือไม่ใน 7 วัน ส่วนข้อเรียกร้องต่างๆ จะหาคำตอบใน 30 วัน ด้านกลุ่ม Save BCC ขีดเส้น 7 วันขอคำตอบชัดเจน
วันนี้ (28 ต.ค.) นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เดินทางมายังโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เพื่อร่วมหารือกับทั้ง นายบรรจง ชมภูวงศ์ ผอ.ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ กลุ่มตัวแทน Save BCC ซึ่งมีทั้งเครือข่ายศิษย์เก่าและสมาคมผู้ปกครอง รวมถึงตัวแทนจากมูลนิธิสภาคริสตจักรในประเทศไทย ซึ่งใช้เวลาในการหารือเกือบ 2 ชั่วโมง
นายอรรถพล ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมว่า ความขัดแย้งทั้งหลายมาจากการมองไม่ตรงกัน ต่างคนต่างมีเหตุผล แต่ในที่ประชุมตนได้ย้ำไปแล้วว่า ขอให้เดินหน้าการเรียนการสอนตามปกติ เพราะไม่อยากให้กระทบกับนักเรียน ซึ่งที่ประชุมก็เห็นตรงกันว่า ตั้งแต่ช่วงภาคบ่ายวันที่ 28 ต.ค.เป็นต้นไป จะจัดการเรียนการสอนตามปกติ ส่วนกิจกรรมวันพรุ่งนี้ที่จะมีการไปยื่นถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นักเรียนก็จะไม่เข้าร่วม เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่ควรเอานักเรียนไปเล่นเกมนี้ด้วย ส่วนของตนเองนั้น เนื่องจากตนเพิ่งมารับตำแหน่งเขาธิการ สช.วันแรก เมื่อทราบว่ามีการชุมนุมก็ตรงมารับเรื่องทันที สิ่งแรกที่จะทำ คือ จะนำเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน โดยภายใน 7 วัน จะตรวจสอบดูว่ากระดุมเม็ดแรกกลัดถูกต้องหรือไม่ คือ ตรวจสอบที่มาและการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโรงเรียน เพราะมีอำนาจเหนือทุกอย่าง ซึ่งมูลนิธิฯ ได้รับมบอนุญาต แต่การสั่งการต้องผ่านคณะกรรมการบริหารโรงเรียน การดำเนินการต่างๆ ของผอ. และผู้จัดการ ก็ล้วนอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการบริหารทั้งสิ้น และต้องไล่ดูว่าการใช้อำนาจที่ผ่านมาถูกต้องชอบธรรมแค่ไหน
นายอรรถพล กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ทางสมาคมผู้ปกครองและศิษย์เก่าเคยยื่นเรื่องแล้วล่าช้าหรือไม่ได้รับคำตอบต่างๆ ก็ขอเวลา 30 วัน ในการไปไล่เรียงเรื่องราวและนำมาตีแผ่ความจริงให้ เพราะตนก็เพิ่งมา แต่เมื่อผลออกมาแล้วทุกคนต้องยอมรับ ถูกใจเป็นรองถูกต้องเป็นหลัก อย่างเรื่องว่าทำผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ ก็ไม่ได้ดูแค่กฎหมายการศึกษาเอกชนอย่างเดียว ต้องไปดูกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ยืนยันว่า จะไม่รังแกใคร จะว่ากันไปตามเนื้อผ้า ซึ่งตนพร้อมรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายเอาเด็กเป็นตัวตั้ง อะไรคุยได้ประนีประนอมได้ต้องคุยกัน ต้องยึดถูกต้อง ไม่ใช่ถูกใจ ส่วนเรื่องว่าผู้บริหารใหม่รังแกครู เรามีกลไกดูแล ถ้าครูคนไหนรู้สึกโดนกลั่นแกล้งแจ้งมาได้ สช.มีกลไกจัดการ ทั้งนี้ คณะกรรมการเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่เคยตั้ง เนื่องจากมีการเกษียณไป ทำให้งานสะดุดลากยาวเป็นเดือน วันนี้กลับไปจะจัดการเรื่องนี้ทันที เพราะต้องรีบหาข้อยุติโดยเร็วที่สุด จะให้คนนับพันมารอเจ้าหน้าที่ 4-5 คนไม่ได้ ส่วนเรื่องผอ.ร.ร. ผู้จัดการคนใหม่ เท่าที่ตรวจสอบ มีการขออนุญาตถูกต้อง ตอนนี้ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ ส่วนความกดดัน ผู้บริหารต้องตริตรองสถานการณ์ว่า ควรดำรงตนแบบไหน ซึ่งมีทางออกหลายทาง ไม่ใช่มีตำแหน่งบันดาลอะไรได้ทั้งหมด ต้องระมัดระวังพฤติการณ์ที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด
ด้าน นายชัชวีร์ ชีวีวัฒน์ ศิษย์เก่าร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ กล่าวว่า ผลการเจรจาใช้เวลานาน ก็มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพราะเลขาฯ สช.ก็เพิ่งมารับตำแหน่งวันแรก แต่ข้อสรุปก็คงใช้เลารอตามที่ท่นขอ 7 วัน เพราะเรารอมา 3 เดือนแล้ว ที่ผ่านมาไปร้องหน่วยงานต่างๆ ก็แทบไม่ได้รับคำตอบแม้แต่ สช.เอง ถอว่าท่านมาวันแรกได้ให้คำสัญญาเราก็ทำตามนั้น ดังนั้น พรุ่งนี้ที่มีภารกิจพาเด็กทั้งหมดไปยื่นที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ก็จะยกเลิกไป เพราะหากไม่ได้รับความเห้นใจก็อาจจะไปถึงจุดนั้น ส่วนการไปยื่นที่สำนักนายกรัฐมนตรี เด็กๆ อยากจะยื่นเรื่องราวก็ให้เขียนจดหมาย และทาง น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.เขตบางรักก็จะช่วยพาไปยื่นหนังสือไปยื่นต่อส.ส.ศิษย์เก่า ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ เพื่อนำเข้าสู่กรรมาธิการการศึกษาต่อไป
เมื่อถามว่าหากใน 30 วันยังไม่มีความชัดเจนจะมีการยกระดับหรือไม่ นายชัชวีร์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ 30 วัน เราให้เวลา 7 วัน เพราะเรามา 3 เดือนแล้ว จะไม่มี 30 วันที่สองแน่นอน หากยังไม่ชัดเจน ก็ต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งตอนนี้เราดำเนินการแค่ 40% ของเส้นทางในการต่อสู้เท่านั้น ซึ่งเด็กมาเรียนไม่มีความสุข ครูก็ไม่มีความสุขในการสอน ถูกคาดโทษ ไม่มีใครมีสมาธิการเรียนการสอน การประวิงเวลาต่อไปไม่มีอะไรมีคุณภาพ สุดท้ายจะเข้าข้อ สช. หากปั่นป่วนจนมีการเรียนการสอนไม่ได้ จะมีสภาพโรงเรียนอย่างไร แล้วอยากเห็นารเกิดแบบนี้ในประเทศไทยด้วยหรือ ยังต้องถามอีกหรือว่าใครผิดถูก ความรับผิดชอบของใครเป็นอย่างไร เหตุการณ์เป็นตัวชี้แล้ว อยู่ต่อไปเด็กก็ไม่มีความสุขในการเรียน
น.ส.พัชรินทร์ กล่าวว่า เบื้องต้นฐานะ ส.ส.ในพื้นที่ก็มารับฟังปัญหา และเป็นตัวแทนรับหนังสือไปยื่นในส่วนของ ส.ส.ก้จะดูว่ามีคณะกรรมาธิการในที่เกี่ยวข้อง นอกจากด้านกาศึกษา ก็จะช่วยประสานในการยื่นเรื่องราว เพื่อหาแนวทางร่วมกันให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดต่อนักเรียน