ผอ.ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ แจงไม่เกี่ยวผลสอบสั่งปลดอดีต ผอ.-ไล่ออกผู้จัดการ โบ้ยถามมูลนิธิสภาคริสตจักรฯ เอง แจงแค่มาทำหน้าที่ตามได้รับมอบหมายจากมูลนิธิฯ ไม่ห่วงชุมนุมประท้วงกระทบการเรียน ชี้ทุกคนมีสิทธิแสดงออก ปัดมีการคาดโทษครู เปิดใจไม่อึดอัด แต่เหนื่อยใจ ชี้อดีต ผอ. ผู้จัดการก็เป็นรุ่นน้อง พร้อมมาแบกหน้าที่แทนต่อ
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบรรจง ชมภูวงศ์ ผู้อำนวยการ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ ได้เดินทางกลับเข้ามายัง ร.ร. ปรากฏว่า ทางกลุ่มองค์กร Save BCC ประกอบด้วยเครือข่ายผู้ปกครอง และศิษย์เก่า ต่างแห่กันขึ้นมาบริเวณหน้าห้องทำงาน ผอ.ร.ร.ชั้น 4 เพื่อทวงถามความเป็นธรรมการปลดนายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ อดีต ผอ.ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ และไล่ออกนายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี อดีตผู้จัดการ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ และมีการตะโกนไล่ออกนายบรรจงออกไป
นายบรรจงให้สัมภาษณ์ว่า การมาชุมนุมวันนี้ไม่ได้มีอะไรรุนแรง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะก็เป็นศิษย์เก่าและผู้ปกครอง ส่วนการชุมนุมก็ถือว่าเป็นสิทธิที่จะทำได้ ส่วนตนนั้นได้รับมอบหมายและการแต่งตั้งจากมูลนิธิสภาคริสตจักรในประเทศไทยให้มาดำรงตำแหน่ง ผอ.ร.ร. ก็ต้องทำตามหน้าที่ในการดูแลปกป้องโรงเรียนและนักเรียน ส่วนเรื่องผลสอบของนายศุภกิจและนายวัชรพงษ์เป็นเรื่องของมูลนิธิฯ ตนคงไม่อาจไปก้าวล่วง และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบสวน คงไม่สามารถให้ความเห็นอะไรได้ ส่วนที่มาไล่ให้ตนออกก็ไม่ทราบว่าไปทำอะไรให้ คงต้องไปถามทางกลุ่มศิษย์เก่าและผู้ปกครอง ส่วนข้อเรียกร้องต่างๆ นั้นก็ต้องเรียนว่าต้องส่งไปทางมูลนิธิฯ เพราะตนไม่มีอำนาจตัดสินใจใดๆ
นายบรรจงกล่าวว่า ส่วนเรื่องออกมาชุมนุมและมีนักเรียนร่วมด้วยนั้นคงไม่กระทบการเรียนการสอน เพราะเป็นช่วงเพิ่งเปิดเทอม และช่วงนี้ก้จะมีการจัดเตรียมการแข่งขันงานฟุตบอลประเพณีจตุรมิตรอยู่แล้วด้วย ส่วนที่จะมีการชุมนุมกันต่อไปในวันอื่นก็สามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้มีการข่มขู่ครูไม่ให้มีการแสดงความคิดเห็น หรือมีการคาดโทษในการปล่อยนักเรียนลงมาร่วมชุมนุมแต่อย่างใด เพราะไม่รู้จะไปเอาโทษอะไร ส่วนกรณีคลิปครูเดินวอล์กเอาต์ออกจากที่ประชุมก็เพื่อแสดงสัญลักษณ์ประท้วงทางมูลนิธิฯ ก็คงไม่มีการเอาผิดใดๆ เพราะทุกคนมีสิทธิในการแสดงออก สำหรับประเด็นการยังไม่จ่ายค่าเทอมตรงนี้ไม่กระทบต่อการเรียนการสอน แต่อาจกระทบเรื่องการจ่ายเงินเดือนครูได้
“เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความรับผิดชอบในส่วนของมูลนิธิฯ ผมไม่อยากพูดถึงปัญหา แต่อยากเรียนว่าเราควรปกป้องเด็กของเราให้เติบโตในบรรยากาศของการพัฒนาอุปนิสัย การเล่าเรียนตามที่ควรได้รับ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ไม่อึดอัด แต่เหนื่อยใจ เพราะทั้งนายศุภกิจและนายวัชรพงษ์ต่างก็เป็นรุ่นน้องของผม และผมก็สนับสนุนมาตลอด อย่างนายศุภกิจ ผมก็เป็นคนทำหนังสือรับรองตอนไปเรียนต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา และเป็นที่ปรึกษาให้นายวัชรพงษ์ ทั้งนี้ การเข้ามารับตำแหน่งแทน ผมไม่เหนื่อยที่ต้องมาแบกหน้าที่แทนเขา และไม่เสียใจที่มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่ อย่างห้องทำงานตอนนี้ก็ไม่ได้ไปแตะของของนายศุภกิจ รอให้นายศุภกิจเข้ามาเคลียร์ ส่วนเรื่องต่างๆ ให้ไปถามมูลนิธิฯ เอง" นายบรรจงกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบรรจงพร้อมด้วยแกนนำกลุ่ม Save BCC และตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้มีการปิดห้องหารือกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น