อดีต ผอ.-ผจก.ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ ยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งลงโทษ "ปลดออก-ไล่ออก" ต่อคกก.มูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรฯ ระบุกระบวนการสอบสวนไม่เป็นธรรม มีส่วนได้เสียกับผลสอบสวน ด้าน Save BCC ยื่น สช.พักงาน ผอ.ร.ร.และผจก.คนใหม่ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และนายวัชรพงศ์ อภิญญานุรังสี อดีตผู้จัดการ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ ซึ่งถูกคณะผู้บริหารสภาคริสตจักรในประเทศสอบสวนและมีคำสั่งปลดอดีต ผอ.ร.ร. และไล่ออกอดีตผู้จัดการ ร.ร. จากกรณีการจัดซื้อที่ดินและกิจการโรงเรียนบึงกาฬพิทักษ์ศึกษา ตั้งแจ่วันที่ 3 ต.ค. 2562 ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือลงวันที่ 30 ต.ค. 2562 เรื่องขออุทธรณ์คำสั่งลงดทษของคณะผู้บริหารสภาคริตจักรในประเทศไทย ต่อคณะกรรมการมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย โดยระบุว่า คำสั่งลงโทษดังกล่าวได้แจ้งว่า ผู้ถูกลงโทษมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง โดยการยื่นอุทธรณ์ต้องมีข้อมูลหรือหลักฐานให้คณะกรรมการมูลนิธิฯ เชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมประกอบการพิจารณา โดยหนังสือขอยื่นอุทธรณ์คำสั่งลงโทษ ระบุสาเหตุหลักๆ ว่า มาจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการสอบสวน การพิจารณาความผิด และคำสั่งลงโทษ เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวน ประกอบด้วยบุคคลที่ไม่เป็นกลางและมีส่วนได้เสียโดยตรงกับผลการสอบสวน พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการจัดซื้อกิจการโรงเรียนบึงกาฬพิทักษ์ศึกษา เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้าง คณะกรรมการสอบสวนได้สรุปรายงานการสอบสวนบิดเบือนเป้นการกล่าวหาตนเอง
นอกจากนี้ นายศุภกิจ และนายวัชรพงศ์ ยังได้ทำหนังสือลงวันที่ 29 ต.ค. ส่งถึงนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) โดยขอให้ตรวจสอบ สั่งการ และระงับคำสั่งต่อกระบวนการสอบสวนและลงโทษของคณะกรรมการบริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เพื่อความเป็นธรรม เพราะเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อระเบียบของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
ด้าน องค์กร Save BCC ประกอบด้วยกลุ่มศิษย์เก่าและผู้ปกครอง ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ ได้ทำหนังสือลงวันที่ 30 ต.ค. ส่งถึงเลขาธิการ กช.เช่นกัน โดยระหว่างที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีปลดนายศุภกิจและไล่ออกนายวัชรพงศ์ ที่มีกรอบระยะเวลา 7 วัน และเรื่องของการตรวจสอบทุจริตต่างๆ ใหม่ใน 30 วันนั้น เพื่อให้ทุกฝ่ายทั้งศิษย์ปัจจุบัน ครู ผู้ปกครอง และศิษย์เก่า เกิดความสบายใจ จึงขอให้มีคำสั่งพักงานผู้อำนวยการและผู้จัดการ ร.ร.คนปัจจุบัน เพื่อลดสถานการณ์ความขัดแย้งภายใน ร.ร. บุคลากรปฏิบัติหน้าที่โดยปกติสุข