สช. ชี้ยื่นถอดถอนอดีต ผอ.ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ ไม่ถูกต้อง เหตุไม่ได้อ้างมติผู้รับใบอนุญาต แทงเรื่องกลับ ร.ร.พิจารณาทบทวนใหม่ ส่วนผู้จัดการ ร.ร.เป็นเรื่องการว่าจ้าง ต้องเรียกร้องผ่านกฎหมายแรงงาน เผยมูลนิธิฯ มีข้อปฏิบัติบางส่วนขัดข้อบังคับ อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม จ่อเชิญสองฝ่ายหารือ
วันนี้ (31 ต.ค.) นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาภายใน ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย โดยเฉพาะกรณีการปลดออกอดีต ผอ.ร.ร.และไล่ออกผู้จัดการ ร.ร. ว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงระหว่างการรับฟังข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้รับฟังข้อมูลจากกลุ่มผู้แทนผู้รับใบอนุญาต ส่วนวันที่ 31 ต.ค. ก็ได้พบและรับฟังข้อมูลจากทางกลุ่มศิษย์เก่าและผู้ปกครอง และอยู่ระหว่างการเร่งการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นในส่วนของการถอดถอนผู้บริหารคนเก่า ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ส่วนของ นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ อดีต ผอ.ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย จากเอกสารการยื่นถอดถอนที่ส่งมาทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) พบว่า ได้อ้างมติของสภาคริสตจักรในประเทศไทยในการยื่นถอดถอน แต่ทางกฎหมายผู้ที่มีอำนาจถอดถอนได้ คือ ผู้ได้รับใบอนุญาต จึงต้องเป็นคณะกรรมการมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทยที่เป็นผู้รับใบอนุญาต จึงได้ยื่นต่อทางนิติการ เพื่อให้ส่งเรื่องคืนกลับไปยังทางผู้รับใบอนุญาตให้มีการทบทวนเรื่องการถอดถอน
นายอรรถพล กล่าวว่า 2.ส่วนของ นายวัชรพงศ์ อภิญญานุรังสี อดีตผู้จัดการ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ ตรงนี้เป็นเรื่องระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง เพราะตามกฎหมาย พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน ไม่ได้ครอบคลุมถึงส่วนนี้ ต่างจากส่วนของ ผอ.ร.ร.ที่ยังมีเรื่องระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการคุ้มครองการทำงานของครู ดังนั้น จึงจะแจ้งกลับไปยังนายวัชรพงศ์ ผู้ร้องทุกข์ ให้ใช้สิทธิตามกฎหมายแรงงานว่าด้วยการจ้างในการเรียกร้องแทน สำหรับประเด็นการตั้ง ผอ.ร.ร.คนใหม่นั้น ขณะนี้ สช.ยังไม่ได้ตอบยันยันรับทราบ ก็จะแจ้งกลับไปเช่นกันว่า ถ้าคนเก่ายังไม่เรียบร้อย ยังไม่สะเด็ดน้ำ คนใหม่ก็ถือว่ายังไม่ชอบธรรม แต่ถามว่าปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ ก็สามารถทำได้ ตราบใดที่ยังไม่บอกล้างก็ทำหน้าที่ได้ แต่ตนจะมีหนังสือไป ถ้ามีหนังสือไปถึงเมื่อไรก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
"ทาง สช.ไม่มีอำนาจสั่งระงับอะไร แต่ให้ข้อสังเกตให้ผู้มีอำนาจของ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ พิจารณาทบทวน โดยเฉพาะกรณีการถอดถอน ซึ่งการปฏิบัติทั้งหลาย ต้องปฏิบัติตามตราสารจัดตั้ง ซึ่งมีการเชื่อมโยงไปยังระเบียบบริหารของผู้รับอนุญาต และเชื่อมโยงข้อบังคับมูลนิธิฯ ด้วย ดังนั้น ระเบียบเหล่านี้จึงต้องถือเป็นส่วนหนึ่งของตราสารด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการร้องขอหลักฐานเพิ่มเติม เพราะมีเอกสารเกี่ยวข้องค่อนข้างเยอะ แต่เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น การดำเนินการก็ไม่เป็นไปตามข้อบังคับบางส่วน แต่ยังให้รายละเอียดไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง แต่เห็นแล้วว่าการปฏิบัติของมูลนิธิฯ ก็ขัดกับข้อบังคับที่กำหนด ซึ่งเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด" นายอรรถพล กล่าวและว่า เร็วๆ นี้จะมีการเชิญทั้งสองฝ่ายมาหารือกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคิดว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องหันหน้ามาคุยกัน แต่เท่าที่พูดคุยสองฝ่ายก็มีท่าทีอ่อนลง