“หมอปิยะสกล” สายตรงถึง รมช.คลัง หวั่นออกระเบียบคุมลูกจ้างกระทบ สธ. ขอลูกจ้าง พนักงาน สธ. อย่าเพิ่งตกใจ เตรียมหาทางช่วยเหลือ ด้านผู้บริหาร สธ. เข้าหารือกับผู้บริหาร ก.คลัง ขอชะลอระเบียบออกไปก่อน พร้อมหาทางออกที่เหมาะสม
ความคืบหน้ากรณีกระทรวงการคลังออกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยกำหนดว่าให้ส่วนราชการต้องเสนอกระทรวงการคลังก่อนจ้างพนักงานหรือลูกจ้าง และให้จ้างได้ไม่เกินอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของตำแหน่งและวุฒิ และไม่มีการเลื่อนขั้นค่าจ้าง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะทำให้โรงพยาบาลรัฐล่มสลาย เนื่องจากโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ส่วนใหญ่ ใช้รูปแบบการจ้างแบบนี้ เพื่อแก้ปัญหาบุคลากรไม่เพียงพอ
วันนี้ (23 พ.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผ่านทางวิดีโอคอลถึงเรื่องดังกล่าวขณะเดินทางไปประชุมเวทีสมัชชาองค์การอนามัยโลกที่ สมาพันธรัฐสวิส ว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและ สธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยตนได้โทรศัพท์ประสานไปยังรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังถึง 2 ครั้ง ว่า ประกาศดังกล่าวหากออกมาจะกระทบกับ สธ. อย่างมาก ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ นพ.ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ สธ. นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัด สธ. พร้อมผู้บริหารเข้าหารือกับทางกระทรวงการคลังในช่วงบ่ายของวันที่ 23 พ.ค. เพื่อขอให้พิจารณาหาทางออกในเรื่องนี้ ขอให้ลูกจ้างพนักงานกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมดอย่าเพิ่งตกใจ ขอให้ใจเย็นๆ ผู้บริหาร สธ. ไม่นิ่งเฉย จะหาทางช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีชมรมแพทย์ชนบทชวนให้โรงพยาบาลทุกระดับขึ้นป้าย แต่งดำ ผูกริบบิ้นดำคัดค้านระเบียบดังกล่าว นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ขอให้รอการหารือก่อน ซึ่งเชื่อว่าจะมีแนวทางช่วยเหลือแน่นอน เราจะไม่ทำอะไรที่กระทบกับประชาชน และจะไม่ทำอะไรที่ส่งผลต่อขวัญกำลังของบุคลากร ซึ่งขณะนี้ตนมาประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่จะรีบเดินทางกลับไปยังประเทศไทยให้เร็วที่สุด คาดว่า น่าจะถึงไทยประมาณวันที่ 25 พ.ค. นี้ เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาดังกล่าว
นพ.ธวัช กล่าวว่า จากการหารือกับฝ่ายกฎหมายและทรัพยากรบุคคล มีมติว่าจะเสนอให้กระทรวงการคลังชะลอการบังคับใช้ระเบียบดังกล่าวออกไปก่อน และเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อศึกษาเรื่องแนวทางการจ้างอย่างสมเหตุสมผล เพราะเรื่องนี้กระทบต่อลูกจ้างของ สธ. ที่มีมากถึง 140,000 คน โดยจะมีการหารือกับกระทรวงคลังในเวลา 13.00 น. ร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรองปลัดกระทรวงการคลัง ที่กำกับดูแลกรมบัญชีกลาง
นพ.เจษฎา กล่าวว่า นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข มีความห่วงใยในขั้นตอนปฏิบัติ ซึ่งจะมีผลกระทบกับผู้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลของ สธ. ซึ่งมีลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุขเป็นจำนวนมากที่จ้างด้วยเงินนอกงบประมาณ หากระเบียบนี้ประกาศใช้จะมีผลกระทบกับโรงพยาบาลในสังกัด สธ. เป็นอย่างมาก เนื่องจาก สธ. มีลูกจ้างชั่วคราว และลูกจ้างอื่นๆ ที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วย เช่น พนักงานเปล ผู้ช่วยเหลือผู้ป่วย และมีการจ้างงานตามระเบียบพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีสัญญาจ้างระยะเวลา 4 ปี กำหนดให้มีสวัสดิการและการขึ้นค่าจ้างรายปี จึงต้องหาแนวทางเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับเจ้าหน้าที่ และระบบการให้บริการประชาชน
“ขอให้ลูกจ้างทุกคนอย่างเพิ่งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางผู้บริหาร สธ. กำลังพยายามแก้ไขปัญหานี้ และขอให้รอการหารือในช่วยบ่าย หากได้รับผลอย่างไรก็จะมีการแจ้งหรือออกหนังสืออย่างเป็นทางการ เบื้องต้นจะทำให้มีการชะลอเรื่องคำสั่งดังกล่าวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อ สธ.มากที่สุด เนื่องจากระเบียบของคำสั่งระบุให้มีการจ้างรายปีงบประมาณ ซึ่งก็จะทำให้ลูกจ้างสิ้นสุดการจ้างในกันยายนนี้ และอาจส่งผลต่อการให้บริการประชาชน” นพ.เจษฎา กล่าว