ชัดแล้วไม่พูดซ้ำ!! “อัศวิน” ลั่นไม่ขอยุ่ง “หอศิลป์” ยันไม่เกี่ยวกลัวเสียคะแนนเสียง ลั่นไม่เคยพูดว่ามูลนิธิฯ บริหารขาดทุน 80 ล้านบาท พร้อมให้มูลนิธิฯ บริหารจนครบสัญญาถึงปี 2564 หลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรค่อยมาว่ากัน แต่คงไม่ใช่ยุคตนเป็นผู้ว่าฯ แล้ว
จากกรณีกรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมนำหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครมาบริหารเอง แต่เกิดกระแสต่อต้านจากเหล่าศิลปิน ซึ่งมีการไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ กทม. ยุติแนวคิดดังกล่าว และปลด พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกจากตำแหน่ง
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ซึ่งมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธาน มีวาระการพิจารณาเรื่อง ขั้นตอนและแผนการดำเนินการปรับปรุงพื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ให้เป็น Creative Space รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ
พล.ต.อ.อัศวิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า เรื่องนี้ตนประกาศยุติการดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2561 แล้วว่า กทม. จะไม่เข้าไปบริหารจัดการหอศิลป์ แล้ว เนื่องจากกระแสสังคมหรือประชาชนไม่เห็นด้วย เราก็ไม่เดินหน้าต่อ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลว่า กทม. ไม่มีประสบการณ์หรืออะไรก็ตาม ก็เหมือนกับโครงการอื่นๆ เช่น จะตัดถนน หากประชาชนที่ใช้ถนนหรือคนในบริเวณนั้นไม่เห็นด้วย เราก็ไม่ทำ ทั้งนี้ ในการประชุมตนก็ได้รับรองในเรื่องดังกล่าวไปแล้วว่า กทม. จะไม่เข้าไปกำเนินการเกี่ยวกับหอศิลป์ฯ จึงไม่มีการพิจารณาในวาระดังกล่าว
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า จากนี้ก็ให้มูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ดำเนินการบริหารต่อไปจนกว่าจะครบสัญญาหรือ MOU ซึ่งจะสิ้นสุดลงในปี 2564 ส่วนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรค่อยมาว่ากันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตนไม่ทราบว่าจะเป็นเช่นไร เพราะถึงเวลานั้นตนก็คงไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา ฝนยังไม่ทันตั้งเค้าอย่าเพิ่งเตรียมถัง ทั้งนี้ ยืนยันว่า การที่ไม่ยุ่งกับหอศิลป์ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องกลัวเสียคะแนนในการเลือกตั้ง เพราะตนไม่ได้เป็นนักการเมือง และไม่ใช่นักการเมือง
“ที่จะเข้ามาพัฒนาหอศิลป์นั้น เนื่องจากผมมีความคิดอยากจะพัฒนาให้สมประโยชน์กับพื้นที่มากที่สุด เพราะตอนแรกผมเห็นว่ามีที่เหลือ มีโต๊ะ เก้าอี้ ให้เด็กนั่งหรือไม่ แต่ กทม. ไม่สามารถเข้ามาดำเนินการได้ ซึ่งผมก็เพิ่งทราบว่า เป็นเรื่องของมูลนิธิฯ ในการบริหารจัดการ ส่วนที่อ้างว่าเป็นเพราะขาดทุนนั้นก็ไม่เป็นความจริง ผมไม่เคยพูดเรื่องมูลนิธิฯ บริหารขาดทุน 80 ล้านบาท ไปหามาได้เลยว่าผมพูดตรงไหน จะขาดทุนหรือกำไรก็ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของมูลนิธิฯ และยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่มีการจัดกิจกรรมในเชิงการเมือง นอกจากนี้ นายกฯ ยังโทรศัพท์ถึงผมเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ว่า ให้ตามใจประชาชน จึงได้ประกาศยุติทางเฟซบุ๊ก” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
เมื่อถามถึงเรื่องการสนับสนุนงบประมาณให้หอศิลป์ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า หากสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว เสนองบประมาณขึ้นมา ก็พร้อมเสนอไปยังสภา กทม. พิจารณาอนุมัติ จะเสนอมาเท่าไรก็ให้สภา กทม. พิจารณาไปตามนั้น ส่วนเรื่องที่ว่าใน MOU มีการกำหนดไว้หรือไม่ว่า กทม. ต้องสนับสนุนงบประมาณ ตนยังไม่เคยเห็นรายละเอียดของ MOU ว่า กทม. ต้องสนับสนุนงบหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากต้องการให้สนับสนุนงบประมาณ อย่างที่บอกคือสำนักวัฒนธรรมฯ สามารถเสนอขึ้นมาได้ แล้วให้สภา กทม. อนุมัติ ส่วนที่ว่าอาจเป็นเรื่องของการผิดระเบียบนั้น คงจะต้องให้ฝ่ายกฎหมายเข้ามาตีความ และหากจะไม่ชอบด้วยกฎหมายจริง ก็ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรถึงให้ได้ เพราะอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม กทม.ก็พร้อมสนับสนุน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องมีการหารือกับทางกลุ่มศิลปินที่ไปยื่นนายกฯ ให้ปลดออกจากตำแหน่งเพื่อทำความเข้าใจหรือไม่เพราะไม่เชื่อว่าจะยุติจริง พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ก็อาจให้สำนักวัฒนธรรมฯ ไปหารือ อย่างที่บอกแล้วว่าตนจะไม่ยุ่งกับหอศิลป์อีก หากไม่เชื่อตนก็ช่วยไม่ได้ หากไม่ให้เกียรติศิลปินคงไม่ประกาศยุติตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พ.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นเรื่องหอศิลป์อาจมาจากการที่ปี 2561 สภา กทม. ไม่ได้อนุมัติงบประมาณสนับสนุนให้แก่มูลนิธิฯ ในการดำเนินการบริหาร เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตว่า มูลนิธิฯ เข้ามาบริหารหอศิลป์ฯ โดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภา กทม. ซึ่งผิด พ.ร.บ. ระเบียบการบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ทำให้สภา กทม. ไม่อนุมัติงบประมาณให้มูลนิธิฯ เพราะอาจเข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทางออกในเรื่องนี้เป้นไปได้ว่า มูลนิธิฯ อาจต้องทำให้ถูกระเบียบคือผ่านสภา กทม.เห็นชอบ สภา กทม. จึงสามารถอนุมัติงบประมาณสนับสนุนได้
