สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งฯ ยื่นหนังสือ รมว.สธ. ร้องแก้ปัญหาขออนุญาตโฆษณาสถานพยาบาล เสนอ สบส. ออกประกาศใหม่กำหนดเวลาขออนุญาต 60 - 90 วัน ดารา - เน็ตไอดอล - เอเยนซี ต้องขออนุญาตด้วย พร้อมคุมเข้ม “หมอต่างชาติ” ไม่มีไลเซนส์แต่มาให้คำปรึกษา ผ่าตัดในไทย ย้ำแค่มาออกรายการปรึกษาก็ผิด เหตุเป็นส่วนหนึ่งการประกอบโรคศิลปะ
ความคืบหน้ากรณีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ชี้แจงต่อสถานพยาบาลทั่วประเทศล่าช้า ถึงการต้องมาขออนุญาตโฆษณาสถานพยาบาล ส่งผลให้มีเวลาเพียง 2 วันในการยื่นขออนุญาตโฆษณาก่อนครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้สถานพยาบาลกังวลถึงการถูกเอาผิดตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2559 ขณะที่ สบส. แจงว่า ยังไม่มีการตรวจจับ และเปิดช่องให้มาขออนุญาตได้ตลอด โดยยังไม่มีกำหนดเดดไลน์
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.20 น. ศ.นพ.สมยศ คุณจักร นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พล.ต.นพ.บวรลักษณ์ เวชกฤตยา อุปนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าฯ และ นพ.กุศล ประวิชไพบูล กรรมการสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าฯ เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นหนังสือถึง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อให้แก้ปัญหาการดำเนินการขออนุญาตโฆษณาสถานพยาบาลไม่ทัน โดยมี น.ส.กฤษณา สนองคุณ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบหนังสือ
พล.ต.นพ.บวรลักษณ์ กล่าวว่า แม้ สบส. จะชี้แจงว่าไม่มีการดำเนินการตรวจจับเอาผิด และมาขออนุญาตได้ตลอด แต่พวกตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากไม่ได้ออกเป็นกฎหมายอย่างชัดเจน เท่ากับว่าหากยังไม่มาขออนุญาตก็เท่ากับทำผิดกฎหมายไปแล้ว และหากไม่ตรวจจับเมื่อมีผู้มาร้องเรียนว่ายังไม่ขออนุญาตโฆษณา ก็เท่ากับว่า สบส.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การมาในวันนี้จึงมายื่นขอเสนอถึง รมว.สาธารณสุข และอธิบดี สบส. เพื่อให้แก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งทางสมาคมฯ มีข้อเสนอว่า ให้ สบส.ออกประกาศฉบับใหม่ กำหนดให้สถานพยาบาลมาขออนุญาตโฆษณาใหม่ ขยายเวลาออกไปเป็น 60-90 วัน และเมื่อครบกำหนดนี้ ทุกอย่างก็จะกลับเข้ามาอยู่ในกรอบ
พล.ต.นพ.บวรลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ สบส. ชี้แจงว่า เรื่องโฆษณาเอาผิดกับประชาชนทุกคนที่โฆษณานั้น พวกตนอยากให้ออกประกาศให้ชัดเจนเช่นกันว่า กลุ่มดารา เน็ตไอดอล เอเยนซี หากจะโฆษณาก็ต้องมาขออนุญาตด้วยเช่นกัน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียว นอกจากนี้ ขอให้ สบส.เข้มงวดคลินิกที่ให้บริการโดยเแพทย์ต่างประเทศที่ไม่มีการขอใบอนุญาตหรือไลเซนส์ในประเทศไทยด้วย หรือมีการชักจูงให้ไปรับบริการจากแพทย์ต่างประเทศก็ผิดโฆษณาด้วย ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายและผิดมานานแล้ว ขอให้จับกุม สอบสวน และลงโทษ แม้แต่ให้คำปรึกษาคนไข้โดยที่ไม่มีใบอนุญาตของประเทศไทยก็ถือว่าผิดเช่นกัน สำหรับประเด็นเรื่องบทลงโทษของการโฆษณาที่มีโทษจำคุกด้วยนั้น มองว่ารุนแรงเกินไป เพราะยังไม่ได้มีการกระทำผิดที่ถึงขั้นไปทำให้คนอื่นเสียหาย แต่กลับมีโทษรุนแรงเท่าความผิดอาญาคือจำคุก จึงอยากให้ปรับปรุงบทลงโทษตรงนี้ หรือหากจะคงเรื่องโทษจำคุกไว้ก็ขอให้พิจารณาใช้กับคนที่ทำผิดซ้ำซากจะดีกว่า
เมื่อถามถึงรายการโทรทัศน์ที่นำมาแพทย์ต่างชาติที่ไม่มีใบอนุญาตฯ มาให้คำปรึกษา ก็เข้าข่ายผิดหรือไม่ และเหตุใดการให้คำปรึกษาจึงเข้าข่ายการรักษา ศ.นพ.สมยศ กล่าวว่า หากไม่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง แพทย์ต่างชาติมาให้คำปรึกษาก็ถือว่าผิดแน่นอน จากการปรึกษาอัยการสูงสุดซึ่งก็ตีความว่า การให้คำปรึกษาของแพทย์กเท่ากับเป็นขั้นตอนการรักษา คือการซักประวัติหรือตรวจร่างกาย เป็นขั้นตอนหนึ่งของการรักษา เป็นส่วนหนึ่งของการประกอบโรคศิลปะได้
พล.ต.นพ.บวรลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่คลินิกที่มีแพทย์ต่างชาติมาบริการให้คำแนะนำ ก็มีทั้งกรุงเทพฯ และตจ่างจังหวัด โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ปัญหาคือประชาชนไม่ทราบ สบส. ควรชี้แจงด้วยว่ากรณีเช่นนี้คือผิด ซึ่งไม่อยากที่จะตรวจหาว่าดีหรือไม่ดี
เมื่อถามว่า ที่นำแพทย์ต่างชาติมาให้บริการ เพราะมีความเชี่ยวชาญกว่าหรือไม่ ศ.นพ.สมยศ กล่าวว่า หากพูดในเรื่องของศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ประเทศไทยดำเนินการมานานกว่า 30 ปี แต่เรามีการควบคุมเรื่องการโฆษณา ในประเทศยังโฆษณายาก ต่างประเทศยิ่งไม่ต้องพูดถึง ซึ่งต่างจากเกาหลีที่เขาไม่ได้ควบคุม และทำการตลาดอย่างหนัก โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ แต่จริงๆ แล้วแพทย์ของไทยไม่ได้ด้อยกว่าเกาหลีเลย และเราทำมานานกว่าเกาหลีด้วยซ้ำ บางเรื่องเรายังชำนาญกว่าต้องไปสอนเขา หรือบางอย่างที่เขาชำนาญก็มาแลกเปลี่ยนความรู้กัน อย่างไรก็ตาม ที่กังวลคือการไปทำศัลยกรรมที่ต่างประเทศ ซึ่งการไปผ่าตัดไกลๆ นอกจากราคาแพงถึงหลักแสนแล้ว เมื่อเกิดผิดพลาดก็ได้รับการดูแลแก้ไขได้ยาก เอาผิดได้ยาก และต้องมาแก้ในประเทศไทยอีก ซึ่งศัลยแพทย์ตกแต่งใบหน้าเจอแทบทุกคนที่ไปศัลยกรรมจากเกาหลีแล้วต้องกลับมาแก้ โดยเฉพาะจมูกพบมากที่สุด