โค้งสุดท้ายสงกรานต์วันที่ 6 เกิดอุบัติเหตุ 3,418 ครั้ง ตาย 378 ราย เจ็บ 3,575 คน โคราชยังมียอดตายสูงสุด เชียงใหม่เกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บสูงสุด จังหวัดตายเป็นศูนย์ลดลงเหลือ 6 จังหวัด ศปถ.เข้มวันสุดท้ายเดินทางกลับสงกรานต์
วันนี้ (17 เม.ย.) พล.ท.ธเนศ กาลพฤกษ์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก แถลงข่าวผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 ว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เม.ย.ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ พบเกิดอุบัติเหตุ 425 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 49 ราย บาดเจ็บ 464 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ขับรถเร็ว 28.47% ดื่มแล้วขับ 27.29% ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ จักรยานยนต์ 81.80% ส่วนใหญ่เกิดในทางตรง 64% ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ 16.01-20.00 น.
พล.ท.ธเนศกล่าวว่า จากการตั้งจุดตรวจหลัก 2,031 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,226 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 856,446 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 176,415 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 49,866 ราย ไม่มีใบขับขี่ 46,067 ราย ทั้งนี้ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ พิษณุโลก จำนวน 17 ครั้ง จังหวัดที่เสียชีวิตสูงสุด คือ สมุทรปราการ และพิษณุโลก จำนวน 4 ราย บาดเจ็บสูงสุดคือ พิษณุโลก จำนวน 17 คน
พล.ท.ธเนศกล่าวว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วัน เกิดอุบัติเหตุรวม 3,418 ครั้ง ผู้เสียชีวิตสะสม 378 ราย บาดเจ็บสะสม 3,575 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือตายเป็นศูนย์ มี 6 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ระนอง สตูล สมุทรสงคราม หนองคาย และหนองบัวลำภู จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ จำนวน 126 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด คือ นครราชสีมา จำนวน 19 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ จำนวน 136 คน
“วันที่ 17 เม.ย.ยังมีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ ศปถ.ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูอลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนทุกเส้นทาง และขอให้จังหวัดวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะสาเหตุหลักของอุบัติเหตุทางถนน อำเภอเสี่ยงหรือพื้นที่สีแดงและส้ม นำไปปรับปรุงและพัฒนาแนวทางป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงปกติและเทศกาล เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนให้มีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียได้มากที่สุด” พล.ท.ธเนศกล่าว
