รองโฆษก คสช.เผยการสัญจรสายเหนือ-ใต้ เข้าสู่ภาวะปกติ อีสานยังคล่องตัว ยอดยึดรถเมาแล้วขับ 6 วัน รวม 13,964 คัน ย้ำรอผลคดีเสร็จถึงขอรับคืน
วันนี้ (17 เม.ย.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ภาพรวมการสัญจรในขณะนี้การใช้เส้นทางสายเหนือ และสายใต้ เข้าสู่สภาวะปกติ สายตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณรถสะสมในบางพื้นที่แต่ยังคงคล่องตัว ไม่มีการเปิดช่องทางพิเศษในทุกเส้นทาง โดยเจ้าหน้าที่ทุกส่วนยังคงให้การดูแลในทุกจุดบริการเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนเช่นเดิม ล่าสุดตลอด 6 วันมีผู้เข้าใช้บริการตามจุดบริการประชาชนของกองทัพบกมากถึง 80,048 คน
สำหรับสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 16 เมษายน 2561 มีดังนี้ จักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 52,298 ครั้ง เจ้าหน้าที่ยึดรถไว้ 2,767 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 34,521 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 41,574 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้ 2,324 ราย ยึดรถยนต์ 1,098 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 20,902 คน
โดยตลอด 6 วันที่ผ่านมา (11-16 เมษายน 2561) เจ้าหน้าที่ตรวจพบการกระทำความผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 220,507 ครั้ง รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 163,840 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 13,964 คัน (แยกเป็น จักรยานยนต์ 10,139 คัน และรถยนต์ 3,825 คัน) และดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด จักรยานยนต์ 147,971 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 86,674 คน
อย่างไรก็ตาม สำหรับรถที่ฝ่าฝืนมาตรการความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ได้นำมาเก็บรักษาไว้ตามสถานที่ต่างๆ เช่น สถานีตำรวจ สำนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหาร ด่านตรวจถาวร มีจำนวนค่อนข้างสูง โดยขณะนี้เจ้าของรถได้ทยอยมาติดต่อขอรับรถคืนตามเวลาที่กำหนดแล้ว ส่วนรถที่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีต้องรอให้ผลทางคดีเสร็จสิ้นก่อนจึงจะขอรับคืนได้