มาตรการลดอุบัติเหตุ ดื่มไม่ขับ 4 วัน ยึดรถไว้แล้ว 7,067 คัน คสช. เป็นห่วง 15 - 18 เม.ย. นี้ พายุฤดูร้อนพัดเข้าเหนือ อีสาน กลาง หวั่นกระทบการสัญจร คสช. กำชับ จนท. เตรียมรับมือ พร้อมเตือนประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์ในสภาพอากาศร้อนต่อเนื่อง ระวังสุขภาพ
วันนี้ (15 เม.ย.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ตามที่ กรมอุตุฯประกาศเตือนพายุฤดูร้อนอีกระลอก อาจเกิดขึ้นในวันที่ 15 - 18 เมษายนนี้ โดยบริเวณไทยตอนบน อีสาน - ตะวันออก กระทบก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึง กทม. และปริมณฑล กระทบตามมา ขณะที่อากาศโดยรวมจะร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุดขึ้นไปถึง 40 องศา จากสภาพดังกล่าว คสช. กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้เตรียมรับมือ พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชน และดูแลเส้นทางให้สัญจรได้ปลอดภัย ขณะเดียวกัน ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังสุขภาพ หลีกเลี่ยงการเล่นน้ำในสภาพอากาศที่ร้อนเป็นเวลานานด้วย
ส่วนการอำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตามมาตรการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ของคณะรักษาความสงบแห่งชาตินั้น กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จิตอาสา ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เสริมด้วยการจัดตั้ง “ด่านชุมชน” และการใช้มาตรการทางสังคม ปฏิบัติต่อผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อความปลอดภัยด้วย เช่น ว่ากล่าวตักเตือน ให้พัก ไม่ให้ขับต่อ เก็บกุญแจรถไว้ชั่วคราว (คนในพื้นที่) หรือแจ้งให้ผู้ปกครอง/ญาติมารับกลับ เป็นต้น ซึ่งผู้ใช้เส้นทางยังมีจำนวนมาก แต่ไม่หนาแน่นเหมือน 4 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ สถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 14 เมษายน 2561 มีดังนี้
จักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 53,542 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถไว้ 3,148 คัน ยึดใบอนุญาตขับขี่ 3,862 ราย และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 33,372 คน
สำหรับรถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 37,429 ครั้ง เจ้าหน้าที่ยึดรถยนต์ 928 คัน ยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้ 3,413 ราย และส่งดำเนินคดี 16,720 คน
โดยตลอด 4 วันที่ผ่านมา (11 - 14 เมษายน 2561) เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 7,067 คัน (จักรยานยนต์ 5,019 คัน และรถยนต์ 2,048 คัน) ยึดใบอนุญาตขับขี่ 16,588 ราย และดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดในส่วนจักรยานยนต์ 82,589 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 47,327 คน
ทั้งนี้ ในจุดบริการประชาชนของกองทัพบกตามเส้นทางต่างๆ ยังคงมีผู้มาขอใช้บริการเป็นระยะ
โดยในวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา มีผู้เข้าใช้บริการ 10,015 คน ส่วนใหญ่จะจอดพักรถ ดื่มกาแฟ เข้าห้องน้ำ สอบถามเส้นทาง ซ่อมตรวจสภาพรถ ขอรับการปฐมพยาบาล รวมถึงการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้บริการตลอด 24 ชม.