คสช.เผย 2 วัน (11-12 เม.ย.) ดำเนินคดีพวกเมาแล้วขับเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ 38,546 ราย ยึดรถแล้ว 1,475 คัน พร้อมขอผู้ร่วมงานสงกรานต์ทุกพื้นที่ เล่นน้ำ แต่งกายเหมาะสม ย้ำดูแลความปลอดภัยสาธารณะตามสถานที่จัดงานทั่วประเทศ
วันนี้ (13 เม.ย.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา หลายพื้นที่เริ่มกิจกรรมงานบุญและเล่นน้ำกันอย่างชุ่มฉ่ำ คึกคัก โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานเนืองแน่น โดยเฉพาะกิจกรรมบนถนนสายวัฒนธรรมของเมืองใหญ่ เช่น ถนนข้าวสาร, สวนลุมพินี, รางน้ำ กทม., ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น, ถนนสเน่หานุสรณ์ หาดใหญ่ รวมทั้งสถานที่จัดงานของชุมชน และบริเวณแหล่งท่องเที่ยว บรรยากาศโดยรวมยังคงเรียบร้อย เป็นไปด้วยความสนุกสนาน ตามประเพณีและสอดคล้องกับกระแสวิถีการแต่งกายชุดไทย โดยการจัดกิจกรรมสงกรานต์ในสถานที่ต่างๆ จะยังมีต่อเนื่องอีกหลายวัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงอำนวยความสะดวก พร้อมเข้มงวดในมาตรการปลอดภัยสาธารณะให้ประชาชนที่เข้ามาร่วมงานได้มีความสุข ด้วยการจัดชุดสายตรวจ เพิ่มเติมตลอดการจัดงาน และขอความร่วมมือส่วนงานต่างๆ บริเวณโดยรอบงานตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเตรียมไฟฟ้าส่องสว่างให้ทั่วถึง เพื่อดูแลความเรียบร้อย โดยยังคงขอความร่วมมือผู้ร่วมงานในการแต่งกาย การดื่มสุรา และการเล่นสาดน้ำอย่างเหมาะสม
ขณะเดียวกัน ยังคงเข้มมาตรการสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุในการสัญจรให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เสี่ยง ทั้งเส้นทางหลัก เส้นทางรอง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผู้ใช้เส้นทางส่วนใหญ่ระมัดระวังและปฏิบัติตนตามกฎจราจร แต่ยังพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการลดอุบัติเหตุอยู่
โดยในวันที่ 12 เมษายน 2561 เจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและ ผู้ฝ่าฝืน “มาตรการ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” จำนวน 56,051ราย แยกเป็น จักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 32,592 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดจักรยานยนต์ไว้ 835 คัน ยึดใบอนุญาตขับขี่ 2,449 ราย และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 22,728 คน
สำหรับรถโดยสารสาธารณะ และรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 23,459 ครั้ง ยึดใบขับขี่ 1,741 คน ยึดรถยนต์ 494 คัน ยึดใบอนุญาตขับขี่ 1,741 ราย และส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 13,102 คน
โดยสรุป 2 วัน (11-12 เมษายน 2561) เจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาท จำนวน 59,390 ราย ส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 38,546 ราย ยึดใบอนุญาตขับขี่ 4,628 ราย และยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้ 1,475 คัน (จักรยานยนต์ 940 คัน, รถยนต์ 535 คัน) ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดสถานที่เก็บรักษารถที่ยึดไว้เป็นอย่างดี โดยเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับคืนได้หลังเทศกาล