สธ. แจงตรวจพบวัคซีนพิษสุนัขบ้าในสัตว์ไม่ได้มาตรฐานเป็นเรื่องอดีตกว่า 10 ปี เผยตั้งแต่ปี 55 กรมวิทย์ ร่วมปศุสัตว์ และ อย. สุ่มตรวจ หากเจอไม่ได้มาตรฐานไม่ปล่อยออกสู่ตลาด ย้ำวัคซีนที่ฉีดในสัตว์อยู่มีมาตรฐาน ปลอดภัย สร้างภูมิคุ้มกันได้
วันนี้ (16 มี.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีพบผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าปี 2561 เพิ่มเป็น 5 รายแล้ว ทั้งที่เพิ่งอยู่ในช่วง 3 เดือนแรก ว่า อยากสื่อสารให้ประชาชนตระหนัก และเข้าใจว่า ขอให้นำสัตว์เลี้ยงที่มีไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในสัตว์ และหากถูกสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมกัด ข่วน หรือมีบาดแผล ให้รีบมาพบแพทย์ทันทีและฉีดวัคซีนป้องกัน ก็จะช่วยลดการติดเชื้อและการเสียชีวิตจากการติดเชื้อได้
เมื่อถามถึงเรื่องการตรวจคุณภาพวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในสัตว์ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความร่วมมือของกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งกรณีผลตรวจสอบพบว่าไม่ได้มาตรฐานเป็นเรื่องของอดีต แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการระบาดของสัตว์ หมา หรือแมว สำหรับการตรวจสอบคุณภาพในปัจจุบันไม่มีปัญหา โดยเมื่อตรวจสอบแล้วก็จะส่งข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้เกี่ยวข้องก็จะซื้่อเฉพาะวัคซีนที่ผ่านมาตรฐานเท่านั้น ดังนั้น วัคซีนที่ฉีดในสัตว์ทั้งประเทศ เป็นวัคซีนที่ผ่านมาตรฐานมีคุณภาพ ส่วนวัคซีนในคนนั้นยิ่งไม่ต้องกังวลมีมาตรฐานผ่านการตรวจสอบอยู่แล้ว ขอย้ำว่า วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ทั้งในคนและในสัตว์มีประสิทธิภาพ 100% ส่วนประเด็นงบประมาณนั้น ยืนยันว่ามีเพียงพอให้ทางโรงพยาบาลต่างๆ จัดสรรวัคซีนเตรียมพร้อมสำหรับคน
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า เรื่องคุณภาพของวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในคน ไม่ต้องกังวล เพราะกรมฯ ได้รับมอบหมายจาก อย. ให้ตรวจคุณภาพทุกล็อต ส่วนวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในสัตว์ได้ร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ และ อย. ร่วมกันวิจัยสุ่มตรวจวัคซีน จนกระทั่งปี 2558 เห็นพร้อมกันว่า ควรมีการตรวจวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าทั้งคนและสัตว์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่า วัคซีนทุกล็อตมีคุณภาพ จึงดำเนินการร่วมกันในการตรวจสอบ ซึ่งหากพบวัคซีนล็อตไหนไม่ได้มาตรฐานก็จะไม่ให้หลุดออกไปสู่ท้องตลาด ส่วนปัจจุบันยืนยันว่า จากการตรวจสอบและมีการกระจายวัคซีนทั้งคนและสัตว์ มีคุณภาพ ปลอดภัย
เมื่อถามถึงการพบวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในสัตว์ไม่ได้คุณภาพเมื่อปี 2558 ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดการระบาดในสัตว์ในปัจจุบัน นพ.สุขุม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน เพราะการตรวจสอบคุณภาพทำให้เกิดความมั่นใจว่าวัคซีนมีความปลอดภัย และทำให้สัตว์มีภูมิคุ้มกัน ส่วนที่ในอดีตตรวจพบไม่ได้คุณภาพและสั่งเรียกคืนไม่ให้มีการใช้นั้น ถือเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้มั่นใจว่า วัคซีนในสัตว์หากไม่ได้มาตรฐานก็จะไม่มีการใช้ เพราะเราใช้การตรวจมาตรฐานเช่นเดียวกับคน ดังนั้น ขอให้มั่นใจว่า วัคซีนที่ออกสู่ตลาดทั้งหมดในปัจจุบันมีความปลอดภัย และมีมาตรฐาน สร้างภูมิคุ้มกันได้
“ทั้งหมดที่มีการตรวจสอบเป็นความร่วมมือกันทั้งกรมปศุสัตว์ อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นไปตามพระปณิธาน ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ดังนั้น เรื่องวัคซีนไม่ได้มาตรฐาน เป็นอดีตเกือบ 10 ปี จึงเกิดความร่วมมือขึ้นตั้งแต่ปี 2555 และมีการสุ่มสำรวจปี 2558” นพ.สุขุม กล่าว
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า กรณีวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในสัตว์ไม่ได้คุณภาพและถูก อย. เรียกคืน 3 ล็อตในปี 2559 นั้น สืบเนื่องมาจากสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้แจ้ง อย. เกี่ยวกับผลวิเคราะห์วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในสัตว์ รุ่นการผลิตที่ 225THF030A ที่เก็บตัวอย่างจากคลินิกรักษาสัตว์ใน จ.นครสวรรค์ พบความแรงต่ำกว่ามาตรฐานนั้น อย. จึงไปเก็บตัวอย่างยาดังกล่าวซึ่งนำเข้ามาจากประเทศสเปน จำนวน 3 รุ่นผลิต ส่งตรวจวิเคราะห์ โดยพบว่าความแรงต่ำกว่ามาตรฐานทั้งหมด จึงเรียกเก็บวัคซีนคืนทั้ง 3 รุ่น ตั้งแต่ปลายปี 2559 และให้บริษัทผู้นำเข้าทำลายยาดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ อย.กำกับดูแลการทำลาย และดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้นำเข้า ส่วนตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน อย. ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมปศุสัตว์ สุ่มตรวจวิเคราะห์วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า แต่ไม่พบว่ามีการตกมาตรฐานแต่อย่างใด