โกงทั้งระบบ! เลขาฯ ป.ป.ท.ลุยสอบ “โกงเงินคนจน” เขื่อนอุบลรัตน์ พบเบิกเกินโควตา-ปลอมเอกสาร

เลขาฯ ป.ป.ท.นำคณะลุยถกชาวบ้าน ปมทุจริตนิคมเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น หลังพบเน่าทั้งระบบ พิรุธบานเบอะ ใช้ชื่อคนเดียวเบิกเงิน 2-4 ครั้ง เกินระเบียบกรมพัฒนาฯ ปลอมเอกสารเบิกจ่าย บางรายส่งลูกเรียนต่างประเทศแต่กลับมาใช้สิทธิ ซ้ำถูกเจ้าหน้าที่กดดันให้พูดว่าได้รับเงินครบถ้วน

วันนี้ (16 มี.ค.) เวลา 10.30 น. พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมคณะทำงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2560 ประเภทเงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรณีทุจริต การเบิกจ่ายเงินของนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

พ.ท.กรทิพย์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เพื่อสุ่มสอบถ้อยคำชาวบ้านและสอบถ้อยคำประชาชนผู้มีรายชื่อเบิกเงินในพื้นที่ 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ที่ 1, 2, 3 ตำบลบ้านดง และหมู่ที่ 10, 13 ตำบลนาคำ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น พบพฤติการณ์ผิดปกติ คือ 1. ในปี พ.ศ. 2559-2560 ผู้นำชุมชนและประธานกลุ่มชาวบ้านแจ้งแก่ประชาชนในหมู่บ้านหรือสมาชิกกลุ่มว่า หากต้องการเงินสงเคราะห์ของนิคมฯ ให้ลงลายมือชื่อในแบบสำรวจ, ผู้ประสบปัญหาทางสังคม, ใบสำคัญรับเงินซึ่งไม่ได้กรอกข้อความและจำนวนเงินลงไป รวมทั้ง ให้นำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมลงลายมือชื่อมอบแก่ผู้นำหมู่บ้าน หรือประธานกลุ่มอาชีพ เพื่อเอาไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ของนิคมฯ ทำการเบิกจ่ายเงิน

พ.ท.กรทิพย์กล่าวอีกว่า 2. พบผู้มีรายชื่อแต่ไม่ได้รับเงินจากนิคมฯ และบางรายพบว่าถูกนำรายชื่อไปทำการเบิกจ่ายเงิน 4 ครั้งในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 อีกทั้งบางรายได้รับเพียงบางส่วนเท่านั้น เช่น มีการนำรายชื่อไปทำเอกสารเบิกจ่าย 2-4 ครั้งๆ ละ 3,000 บาท แต่ได้รับเงินจริงเพียง 1 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีบางส่วนไม่เคยได้รับเลยทั้ง 4 ครั้ง ซึ่งจริงๆ แล้วโดยระเบียบของกรมพัฒนาฯ กำหนดให้การสงเคราะห์ได้ไม่เกิน 3 ครั้งใน 1 ปีงบประมาณ 3. พบตัวอย่างกลุ่มอาชีพทอเสื่อกก หมู่ที่ 13 ตำบลนาคำ เจ้าหน้าที่นิคมฯ ไม่ได้นำเงินสดมามอบให้ด้วยตนเอง แต่โอนเงินเข้าบัญชีกลุ่มทอเสื่อกก

“4. พบรายชื่อบุคคลรายเดียวกันมาทำเรื่องเบิกจ่ายเงินเดือนเดียวกันมากกว่า 1 ครั้ง 5. พบมีการปลอมลายมือชื่อในเอกสารประกอบการเบิกจ่ายใบสำคัญรับเงิน 6. ผู้ได้รับการสงเคราะห์บางรายมีฐานะร่ำรวย ไม่ได้เป็นผู้ยากไร้ มีความสามารถส่งบุตรไปศึกษาต่อต่างประเทศได้ บางส่วนเป็นผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล 7. ก่อนเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ลงพื้นที่เจ้าหน้าที่นิคมฯ โทร.มาซักซ้อมชาวบ้านให้พูดตรงกันว่าได้รับเงินครบถ้วนทุกราย และ 8. เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 มีการเบิกจ่ายเงินเป็น จำนวนกว่า 3,000,000 บาท แต่ในเดือนกรกฎาคม 2560 มีการเบิกจ่ายเงินเพียง 6,000 บาท”

พ.ท.กรทิพย์กล่าวต่อว่า สำหรับโครงสร้างของนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายพัฒนาอาชีพและสังคมและฝ่ายบริหารงานทั่วไป มีพื้นที่นิคมฯใน 3 อำเภอของจังหวัดขอนแก่น คือ อำเภออุบลรัตน์ อำเภอน้ำพอง อำเภอเขาสวนกวาง มี 28,962 ครัวเรือน ประชากรทั้งสิ้น 104,831 คน โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 นิคมฯ ได้รับจัดสรรเงิน จำนวน 11,700,000 บาท และเป็นงบจากกรมพัฒนาสังคมฯ ประเภทเดียว คือ เงินอุดหนุนสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ซึ่งการเบิกจ่ายต้องปฏิบัติตามระเบียบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2552