xs
xsm
sm
md
lg

โผล่นิคมฯเชียงพิณแก๊งโกงเงินคนจนงาบงบ194ล้านบ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - ป.ป.ท. สุ่มตรวจพฤติกรรมโกงเงินคนจน พบลามถึงนิคมสร้างตนเองเชียงพิณ จ.อุดรธานี ส่อทุจริต 5 ประเด็นงบอุดหนุนผู้มีรายได้น้อย-คนไร้ที่พึ่ง 194 ล้านบาท สธ. เผย "นักเรียนพยาบาล" ยังไม่ได้รับทุนเสมาฯ ตั้งแต่ปี 55-60 รวม 198 คน รวมเงินทุนค้างจ่ายกว่า 5 ล้านบาท พร้อมประสานให้ ศธ.ตรวจสอบ-ติดตามทวงเงินคืนให้เด็ก ปปง. เล็งงัดกฎหมายฟอกเงินฟันเครือข่ายข้าราชการซี 8 และคาดสรุปตัวเลขอายัดทรัพย์ที่ถูกถ่ายโอนไป 22 บัญชีได้ในสัปดาห์หน้า

วานนี้ (15 มี.ค.) พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ป.ป.ท.) พร้อมคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้จ่ายงบประมาณอุดหนุนสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ในส่วนของนิคมสร้างตนเอง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบประมาณรวม 194 ล้านบาท โดยนิคมสร้างตนเองเชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับเงินงบประมาณสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง จำนวน 7,030,000 บาท มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 12 ฎีกา

พ.ต.ท.วันนพ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สุ่มตรวจการเบิกจ่ายเงินดังกล่าวของนิคมสร้างตนเองเชียงพิณ หมู่ที่ 6,9 ต.โคกสะอาด และหมู่ที่ 2,10 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี มีรายชื่อรับเงินสงเคราะห์ฯ 41 ราย พบการทุจริต แบ่งตามพฤติการณ์ ดังนี้ 1. การปลอมเอกสารขอรับการสงเคราะห์ ตามเอกสารใบสำคัญรับเงินที่ระบุจำนวนรายละ 2,000 บาท และ 3,000 บาท โดยผู้มีรายชื่อในเอกสารไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด 2. พบรายชื่อผู้ได้รับการสงเคราะห์ จำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 2,000 บาท แต่ผู้มีรายชื่อดังกล่าวยืนยันว่าตนเองไม่เคยได้รับเงินแม้แต่ครั้งเดียว

3. ผู้ที่มีรายชื่อได้รับการสงเคราะห์ ให้ข้อมูลว่าไม่เคยกรอกเอกสารการขอรับเงิน และได้มีการปลอมเอกสารบางส่วน โดยได้รับเงินเพียง 1,000 บาท หรือ 1,500 บาท แต่เอกสารใบสำคัญรับเงินระบุได้รับเงิน 2,000 บาท 4. พบบุคคลไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งมีชื่อเป็นผู้ได้รับเงินสงเคราะห์ และ 5. พบว่า ไม่มีการรวมกลุ่มประกอบอาชีพจริง

ด้านความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่มีการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนบุคคลของเครือข่ายญาติข้าราชการซี 8 ผู้รับผิดชอบโครงการฯ 22 บัญชี รวมกว่า 88 ล้านบาท ซึ่ง ศธ.เตรียมประสานขอข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่ดูแลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ซึ่งมีนักเรียนพยาบาลรับทุนดังกล่าวเป็นประจำทุกปีด้วยนั้น

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ สธ.ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับการรับทุนเสมาฯ พร้อมส่งให้แก่ ศธ. เรียบร้อยแล้ว หากได้รับการประสานเข้ามา ข้อมูลเบื้องต้นตั้งแต่ปีการศึกษา 2555-2560 พบ มีนักเรียนพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีที่รับทุนเสมาฯ รวมทั้งหมด 254 ราย มีผู้ที่ได้รับเงินทุนครบเต็มจำนวนเพียง 56 ราย ค้างการจ่ายทุนทั้งหมด 198 ราย ยังเป็นนักศึกษาที่เรียนอยู่ 161 ราย นักศึกษาที่จบแล้วอีก 37 ราย โดยเงินทุนที่ค้างจ่ายรวมแล้วประมาณกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งการประสานข้อมูลให้แก่ทาง ศธ.ตรวจสอบ ก็หวังว่าจะได้ช่วยติดตามเพื่อให้นักเรียนได้รับทุนให้ครบตามที่ตกลงกันไว้

ปปง. เล็งเพิ่มข้อหาอาญาฐานฟอกเงิน

ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายวิทยา นีติธรรม เลขานุการกรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยความคืบหน้าภายหลังเดินทางเข้าพบนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) เพื่อตรวจสอบกรณีมีการโอนเงินจากกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ศธ.ไปยังบัญชีของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องระหว่างปี 2551-2561 เป็นเงินรวมกว่า 88 ล้านบาท ว่า เดินทางมารับเอกสารสำคัญ เช่น คำสารภาพของราชการระดับ (ซี) 8 และข้อมูลการเคลื่อนไหวของบัญชีทั้ง 22 บัญชี และอาจจะตั้งข้อหาเพิ่มเติม เพราะนอกจากจะโดนเรื่องทุจริตแล้ว จะมีข้อหาเพิ่มเติมคือ ความผิดทางอาญาฐานฟอกเงินอีกด้วย โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี

“ปปง.น่าจะมีผลที่ชัดเจนออกมาเร็วๆ นี้ ถ้าเอกสารครบถ้วน และได้รับความร่วมมือจากกระทรวงต้นสังกัดเต็มที่ ขณะเดียวกันเรื่องนี้ผู้ใหญ่ให้ความสนใจ ทั้ง นายกฯ, รองนายกฯ, รัฐมนตรี ศธ, ปลัด ศธ., ปปง. ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะเร่งดำเนินการ เรื่องการอายัดเงิน 22 บัญชี ตอนนี้ได้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ค่อนข้างจะไปเร็ว” นายวิทยา กล่าว

คาดสรุปตัวเลขอายัดทรัพย์ได้สัปดาห์หน้า

ด้านนายการุณ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) ได้ให้ความร่วมมือและนำส่งข้อมูลให้แก่ ปปง. อย่างเต็มที่ หลังจากนี้ สป.จะต้องหาแนวทางป้องกันการเกิดทุจริต โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. ได้มอบนโยบายให้นำระบบไอซีทีเข้ามาใช้ในการบริการจัดการเรื่องการเบิก จ่ายงบประมาณ รวมถึงตรวจสอบการเบิก จ่ายด้วย ซึ่งจะทำให้การดำเนินโครงการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนทรัพย์สินที่โอนไปยังบัญชีทั้ง 22 บัญชีนั้น ต้องรอ ปปง. ทำการตรวจสอบ ถึงจำนวนคงเหลือที่สามารถอายัดได้ คาดจะสรุปเรื่องเสนอให้คณะกรรมการธุรกรรม ของ ปป. ได้ภายในสัปดาห์หน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น