เปิดงานวิจัยมะกัน พบ สูบบุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน 1.79 เท่า สูบบุหรี่ธรรมดาเสี่ยงเพิ่ม 2.72 เท่า ห่วงคนสูบบุหรี่ไฟฟ้ามักสูบบุหรี่ธรรมดาด้วย ยิ่งเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่า
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ในการประชุมประจำปี The Society for Research on Nicotine & Tobacco (SRNT) ครั้งที่ 24 ที่เมืองบัลติมอร์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ศ.สแตนตัน กลานซ์ และคณะจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก ได้นำเสนองานวิจัยว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าทุกวัน พบว่า มีความเสี่ยงหัวใจวายจากกล้ามเนื้อหัวใจตายมากถึง 2 เท่า ทั้งนี้ งานวิจัยดังกล่าวได้วิเคราะห์ข้อมูลสำรวจสุขภาพของชาวอเมริกันเกือบ 70,000 คนทั่วประเทศเมื่อปี 2014 และ 2016 ผลพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าทุกวัน มีอัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Myocardial infarction) เพิ่มขึ้น 1.79 เท่าของผู้ไม่ได้สูบ ขณะที่ผู้ที่สูบบุหรี่ธรรมดามีอัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเพิ่มสูง 2.72 เท่า
ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า คณะวิจัยสรุปว่า เนื่องจากผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่สูบบุหรี่ธรรมดาด้วย จากข้อมูลวิจัยพบว่า ผู้สูบบุหรี่ที่หันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อจะเลิกสูบบุหรี่ แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการสูบทั้งบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมกับสูบบุหรี่ธรรมดา ยิ่งเกิดความเสี่ยงให้กล้ามเนื้อหัวใจตายเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ คือได้รับความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า บวกกับความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ธรรมดา หมายความว่าโอกาสป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 5 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้สูบทั้งบุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ธรรมดา นับเป็นรายงานแรกที่แสดงว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าระยะยาว ทำให้เกิดโรคร้ายแรงเช่นหัวใจวายได้ ทั้งนี้ การแพร่หลายของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณสิบปีที่ผ่านมานี้เอง