ศูนย์ข่าวศรีราชา-ผกก.พัทยา แจงกรณีชุดสืบสวนจับบุหรี่ไฟฟ้าในตลาดนัดแล้ววางของกลางทิ้งไว้จนสื่อฯ เข้าใจว่าไม่ส่งดำเนินคดี ระบุผู้ต้องหาวิ่งหนี ส่วนของกลางก็ยึดไว้ดำเนินคดี
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่ตลาดนัดการเคหะเทพประสิทธิ์ ย่านพัทยาใต้ เมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้าได้เป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แม้แต่รายเดียว ก่อนที่ชุดจับกุมจะนำของกลางมายัง สภ.เมืองพัทยา เมื่อผู้สื่อข่าวไปสอบถามข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งซึ่งนั่งเฝ้าของกลาง และได้รับคำตอบว่า ไม่ได้มีการจับกุมคดีดังกล่าวแต่อย่างใด อีกทั้งในเวลาต่อมา ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์เดินทางมาแล้วนำของกลาง จนผู้สื่อข่าวต่างเคลือบแคลงสงสัย ตามที่รายงานไปแล้วนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้มีการเข้าทำการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจริง แต่ปรากฏว่า ผู้ต้องหาซึ่งมี จำนวน 2 ราย ได้วิ่งหลบหนี จึงทำได้เพียงยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำมาเก็บไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา จากนั้นได้มีการแบ่งกำลังกันออกติดตามตัวผู้ต้องหา และกำลังบางส่วนออกไปดูแลนักท่องเที่ยวตามจุดเสี่ยง เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยาจำนวนมาก ตนในฐานะผู้บังบัญชาขอยืนยันว่า ได้มีการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า และยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยหลังจากนี้จะได้ทำการออกหาข่าวว่าของกลางที่ยึดได้เป็นของผู้ค้ารายใด
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ที่ผ่านมาตำรวจสามารถจับกุมได้แต่พ่อค้ารายย่อย ส่วนผู้ค้ารายใหญ่ หรือผู้ที่นำสินค้ามาให้ผู้ค้ารายย่อยจำหน่ายได้มีการสืบสวนติดตามจับกุมหรือไม่ ทาง พ.ต.อ.อภิชัย เปิดเผยว่า กรณีนี้ตำรวจได้มีการหาข่าวเพื่อติดตามจับกุมผู้ค้ารายใหญ่อยู่ แต่ต้องดำเนินการจับกุมผู้ค้ารายย่อยมาขยายผลว่าขนส่งสินค้ากันทางไหน หากมีข้อมูลตำรวจก็ไม่ปล่อยให้ลอยนวลแน่ๆ และถ้าประชาชนท่านใดทราบเบาะแสก็สามารถแจ้งข้อมูลเข้ามาได้ ในส่วนของการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษปรับ ส่วนจะปรับมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนของกลาง ซึ่งเรื่องนี้ทางผู้บังคับบัญชาก็ได้เน้นย้ำให้ดำเนินการกวดขันจับกุมมาโดยตลอด และทางตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เองก็ได้ปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัดอยู่อย่างต่อเนื่อง