สบส. ชี้ “บาทาบำบัด” อ้างรักษาโรค เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ขออย่าหลงเชื่อ เสี่ยงโรคกำเริบอันตรายถึงชีวิต ประสาน สคบ. สภาการแพทย์แผนไทย แพทยสภา ตรวจสอบข้อเท็จจริง
จากกรณีมีบุคคลอ้างตัว ใช้พลังจิตรักษาโรคให้หายได้ เนื่องจากเป็นความเชื่อว่าโรค หรือการป่วยเกิดจากเวรกรรม เท้าเหยียบศีรษะ ใบหน้า หรือตามร่างกาย ในการรักษาให้หายจากโรคหรือดีขึ้นได้ทันทีและเสริมความงามได้โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม โดยเรียกว่าบาทาบำบัด
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการใช้เท้าเหยียบศีรษะ ใบหน้า หรือตามร่างกาย เพื่อรักษาโรค หรือเสริมความงาม ทำให้หน้าสวยขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม ซึ่งในทางการแพทย์นั้น ถือว่าการกระทำดังกล่าวไม่ใช่การรักษาโรค เป็นการหลอกลวงประชาชนแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ ขอให้ประชาชนอย่างหลงเชื่อเด็ดขาด เพราะอาจทำให้โรคที่เป็นอยู่กำเริบมากกว่าเดิมได้ หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต เบื้องต้น กรม สบส. จะดำเนินการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สภาการแพทย์แผนไทยและแพทยสภา ให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงการกระทำของบุคคลดังกล่าวซึ่งอาจจะไปในทางไสยศาสตร์มากกว่า
นพ.ธงชัย กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลที่อ้างตนในการรักษาโรคที่ไม่ใช่แพทย์ ควรเลือกรับบริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษา เนื่องจากการใช้เท้าเหยียบใบหน้าและร่างกาย อาจส่งผลให้เกิดอาการบวมช้ำ เคล็ด ขัด ยอก หากเหยียบอย่างแรงอาจทำให้กระดูกแตกถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งกระดูกของคนเรานั้นจะมีโครงสร้างคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง และการปรับแต่งกระดูกทางการแพทย์ทำได้โดยการผ่าตัดอย่างเดียวเท่านั้น
“นอกจากนี้ เท้าเป็นอวัยวะที่สัมผัสเชื้อโรคอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจมีเชื้อแบคทีเรียอาศัยอยู่ โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า และเล็บเท้า หากละเลยเรื่องความสะอาดอาจทำให้เกิดเชื้อรา เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทั้งยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคผิวหนังที่เท้า ซึ่งต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมาทำการเหยียบลงบนใบหน้าจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ และไม่เหมาะสม เพราะจะมั่นใจได้อย่างไรว่าผู้กระทำการดังกล่าวรักษาสุขอนามัยเป็นอย่างดี” นพ.ธงชัย กล่าว