บอร์ดภาพยนตร์ เห็นชอบผลิตหนังร่วมแดนมังกร ใช้งบลงทุนขนาดกลาง พร้อมส่งหนังไทยไปฉายในจีนแบบฟรีๆ ไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์ช่วงแรก หวังตีตลาดมากขึ้น พร้อมขนหนังบู๊ - รัก - ตลก - สยองขวัญ บุกฉายอินเดีย เผยนำร่องคืนภาษี 20 ล้าน ให้ 2 บริษัทที่ถ่ายทำหนังใน จูงใจนักลงทุนเข้ามาถ่ายทำหนังในไทย
วันนี้ (19 ก.ค.) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ครั้งที่ 5/2560 ว่า วันนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบให้เร่งจัดทำแผนงานขยายตลาดภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศจีนและอินเดียตามที่คณะอนุกรรมการบูรณาการแผนงานส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ทั้งในและต่างประเทศเสนอ เนื่องจากมีทิศทางการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะตลาดจีนที่มีขนาดใหญ่และนิยมภาพยนตร์ ละคร รายการทีวี และดาราไทยมาก ดังนั้น จึงวางแผนจัดทำข้อตกลงความร่วมผลิตภาพยนตร์ที่ใช้งบลงทุนขนาดกลาง ฝึกอบรมภาษาจีนให้แก่บุคลากรด้านภาพยนตร์ไทย เปิดช่องทางภาพยนตร์ไทยในสื่อออนไลน์ของจีน และสนับสนุนให้ผู้ผลิตภาพยนตร์ของจีนเข้ามาถ่ายทำในไทย ทดลองขายลิขสิทธิ์เผยแพร่ภาพยนตร์ไทยในจีนโดยในช่วงแรกไม่เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ ขณะที่อินเดียจะจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ไทย ณ เมืองมุมไบ และ เมืองปุเณ นำภาพยนตร์ไทย เช่น หนังบู๊ หนังรัก หนังตลก และ สยองขวัญ ไปฉาย
พลเอก ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมมอบให้คณะอนุกรรมการฯไปสรุปจำนวนเทศกาลตลาดภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ในต่างประเทศภายใน 1 เดือน เพื่อวางแผนนำภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมจัดฉายในปี 2561 ทั้งนี้ ในช่วงปลายปีจะเชิญผู้กำกับภาพยนตร์ และนักลงทุนจากนานาประเทศเข้ามาในไทยมาเป็นวิทยากรให้กับผู้กำกับ ผู้สร้าง และนักแสดงตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือพิจารณาถึงการคืนเงินให้กับผู้ผลิตภาพยนตร์จากประเทศต่างๆ ที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศ ที่ได้มีการยื่นขอรับสิทธิคืนเงิน 15% ตามเงื่อนไขของไทย โดยได้ส่งรายละเอียดให้กรมสรรพากรเพื่อดำเนินงาน และเตรียมคืนเงินให้กับ 2 บริษัท จำนวนกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองบริษัทจ่ายเงินลงทุนกว่า 136 ล้านบาท
“ตั้งแต่เดือน ม.ค.- มิ.ย. นี้ มีผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย จำนวน 439 เรื่อง ในจำนวนนี้เป็นโฆษณา 198 เรื่อง สร้างรายได้ให้กับประเทศจำนวน 1,637 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้วทั้งปีมีจำนวน 700 เรื่อง ซึ่งประเทศเข้ามาถ่ายทำมากสุด คือ ญี่ปุ่น จำนวน 75 เรื่อง รองมา อินเดีย จีน อังกฤษ และ สหรัฐฯ ล่าสุด ที่ เดวิด เบ็คแฮม มาถ่ายโฆษณาที่ไทยใช้เงินลงทุนถึง 18 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมกับค่าตัวของนักแสดง อย่างไรก็ตาม การคืนเงินให้กับ 2 บริษัท ถือว่าครั้งแรกของการคืนเงินจากการใช้มาตรการสนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยการคืนภาษีเพื่อจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาถ่ายทำมากขึ้น ที่สำคัญไทยยังได้รับประโยชน์ทั้งในเรื่องของการจ้างงาน และเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วย” พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว