แม้จะเป็นยุคทองของการทำ “VDO VIRAL” เน้นการสื่อสารแบบสร้างกระแส เข้าถึงง่าย กระชากอารมณ์ และดึงการมีส่วนร่วมของคนในระยะเวลาจำกัด ซึ่งกำลังเหมาะกับสังคมปัจจุบันที่ไม่ชอบอะไรเยิ่นเย้อ ซับซ้อน แต่กระนั้น “ต้นไม้ใหญ่” ที่ไม่ไหวเอนตามแรงลมโถมกระหน่ำ แม้ว่าจะเป็นมรสุม เพราะมีรากหยั่งลึกฉันใด กระบวนการผลิต “สารคดี” ที่เป็นรากฐานของการทำวิดีโอ ช่วยถ่ายทอดเรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆ ออกมาอย่างน่าสนใจ ก็ยังคงความจำเป็นที่ “ผู้ผลิต” ซึ่งเป็น “ผู้ถ่ายทอด” ต้องมีองค์ความรู้ ให้แน่น ให้ครบ ฉันนั้น! ดั่งเช่นที่ บจก.พาโนรามา เวิลด์ไวด์ ผู้ผลิตสื่อสารคดีและคอนเทนต์ชั้นนำของไทย ที่ประสบความสำเร็จในตลาดโลก ได้สวมบท “ผู้ใหญ่ใจดี” จัดประกวดภาพยนตร์กึ่งสารคดีสั้น เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีความรู้และประสบการณ์ด้านการผลิตสารคดี พร้อมบุกตลาดโลก โดยหยิบเรื่อง “ธรรมะ” ซึ่งอยู่คู่กับสังคมไทยมาเป็นโจทย์ในการประกวด ให้เด็กเลือดใหม่ระดมกึ๋นถ่ายทอดเรื่องราวในแบบที่ดูง่ายเข้าถึง ถูกใจชาวโลก
มรกต ณ เชียงใหม่ กก.ผจก.บจก.พาโนรามา เวิล์ดไวด์ เผยว่า “ประเทศไทยมีความได้เปรียบคือ มีคอนเทนต์ที่ดี โดยเฉพาะ ด้านวิถีชุมชน ความเชื่อ วัฒนธรรม ในทุกจังหวัดทุกภูมิภาค ที่ผู้ผลิตสามารถนำเสนอเรื่องราวมาถ่ายทอดเป็นงานสารคดีได้ แต่เรายังขาดความรู้ประสบการณ์ ความชำนาญ และการสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานใหญ่ๆ ในส่วนของพาโนรามาฯ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตสารคดีมากว่า 20 ปี ได้ทำการตลาดจนเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศมาระดับหนึ่งแล้ว คิดว่าถึงเวลาก็อยากเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ช่วยผลิตและผลักดันนักทำสารคดีรุ่นใหม่ๆ ให้มีเวทีในการปล่อยของ โดยดึงเอาหัวข้อที่คาดว่าจะเป็นคอนเทนต์ที่ดีมากๆ มาให้ช่วยตีความเผยแผ่ธรรมะ ในหัวข้อเรื่อง "อริยสัจสี่” โดยโครงการเพื่อสังคม “ธรรม ผ่าน เลนส์-Dharma Lens Contest 2016” มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ “พุทธศาสนา” ภายใต้แนวคิดที่ว่า “อริยสัจสี่ ความจริงอันประเสริฐ” เปิดโอกาสให้เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี ได้นำความรู้ความเข้าใจที่มีต่อพุทธศาสนา และกระบวนการผลิตสารคดี มาร้อยเรียงเรื่องราวในรูปแบบภาพยนตร์กึ่งสารคดีสั้น ผ่านวิธีการนำเสนออย่างมีชั้นเชิง โดยผลงานของผู้ชนะเลิศ จะถูกเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ในงานตลาดภาพยนตร์สารคดีระดับนานาชาติแห่งแรกในเอเชีย “Asian Side of the Doc ครั้งที่ 7” ชิงทุนการศึกษามากกว่า 250,000 บาท พร้อมผลงานจะนำเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ผ่านทางสื่อทุกรูปแบบให้ได้รับชมกันอีกด้วย ซึ่งในแต่ละทีม จะมีทีม Mentor มากประสบการณ์จากทีมบริษัท มาให้คำปรึกษาแนะนำตลอดการผลิตชิ้นงาน ซึ่งได้ผู้เข้ารอบทั้งหมดแล้ว 9 ทีม จากผลงานทั้งหมด"
บรรยากาศเวิร์กชอปได้ฟังคอนเซ็ปต์แต่ละทีมที่เข้ารอบแล้วต้องร้องว้าว ไม่น่าเชื่อคนรุ่นใหม่จะเข้าถึง “แก่น” ของธรรมะได้ขนาดนี้ ลองดูคอนเซ็ปต์โดยย่อของบางทีมที่เข้ารอบกัน
เริ่มที่ อัตวินิบาตกรรม (The Suicide) ร.ร.มารีวิทยา นายกิตติพัฒน์ จำปาทอง, นายณรงค์ฤทธิ์ ผ่องแผ้ว, นายธนัชธร หมอยาสิทธิ์ “แรงบันดาลใจมาจากสถิติการฆ่าตัวตายของคนไทยเฉลี่ย 12 รายต่อ 1 วัน นำมาซึ่งคำถามว่า ทำไมถึงคิดสั้น ไม่มีคนปรึกษา ไม่มีทางออก หรือไม่ห่วงคนข้างหลังเหรอ เครียดจากเรื่องใด ความรัก การงาน เงิน จึงอยากเข้าใจปัญหาและพยายามหาทางแก้ไข เพราะเชื่อว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออกเมื่อมองเห็นแสงสว่าง โดยจะผนวกกับคำสอนของพระพุทธองค์”
แสงสว่างจากหัวใจ (Eye Blind Mind) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นายจุลเกียรติ ธีราธรรม, นายวิรุฬห์ บุญเสริม, นายอคิน ณัฐจีรภัทร “สารคดีจากคุณลุงตาบอด ที่ใช้ชีวิตอยู่ลำพัง ร้องเพลงหาเงิน ไม่คิดจะขอเงินใคร ซึ่งคุณลุงเป็นตัวแทนของผู้ที่เจอทุกข์หนัก ตั้งแต่ เกิดมาบกพร่องและเริ่มชราภาพ การตาบอดทำให้มองไม่เห็น อยู่กับความทุกข์ ทางกายภาพที่แก้ไขไม่ได้ ได้แต่ปรับตัว ทำใจ อยู่กับความเป็นจริง และประกอบสัมมาชีพสุจริต รวมถึงแบ่งเงินส่วนที่ได้ ทำบุญด้วย การติดตาม เราจะเล่าตามจริง ในแต่ละวัน เพื่อเป็นแรงใจให้กับอีกหลายๆ คนที่พร้อมกว่าคุณลุง”
เณรกรรม (Khamma Wild) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ นายสัจจะ หาญเต๊ะ, นางสาวชนัญธิดา พิมพ์เกศ, นายศิวกร ม่วงสวัสดิ์ “แรงบันดาลใจจากการเที่ยววัด จ.น่าน และเห็นกลุ่มสามเณรที่ปลูกป่าทุกปี โดยการปลูกฝังของเจ้าอาวาสเพื่อทดแทนพื้นที่ป่าที่เสียไปจากฝีมือมนุษย์ทั้งหลาย เป็นเวรกรรมที่เณรไม่ได้ก่อขึ้น เรียก “มรรค” คือ สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ)กระทำเพื่อเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เกิดความเกื้อกูลและอยากให้ตระหนักว่าวัดเป็นศูนย์รวมจิตใจของมนุษย์ ขัดเกลาจิตใจให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติ และช่วยดับ “ทุกข์” ให้ป่าไม้ในวันนี้ เพื่อลมหายใจของเราด้วย
ว้าว! แค่แนวคิดยังขนาดนี้ ทำจริงจะขนาดไหน แทบอดทนรอดูไม่ไหว แต่ละทีม “คมคิด” คมคายไม่แพ้กัน แต่สุดท้าย “ฝีมือ” ด้านการเล่าเรื่อง โปรดักชัน เทคนิคการถ่ายทำ ใครจะเป็นหนึ่งสุดยอด ต้องมาลุ้นกัน ติดตามผลงาน และการประกาศรายชื่อผู้ชนะเลิศ วันที่ 2 พ.ย. 59 ในงาน Asian Side of The Doc 2016 ครั้งที่ 7 ณ โรงแรมอวานีริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ หรือชมภาพบรรยากาศโครงการได้ที่เฟสบุ๊ก Dharma Lens Contest 2016 และ www.panoramaworldwide.com
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net