"อูเว่ โบล" ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเยอรมัน ที่มีผลงานในการดัดแปลงวิดีโอเกมมาเป็นภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ Far Cry, In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale, Alone in the Dark, Postal และ BloodRayne ประกาศเลิกทำภาพยนตร์ โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่าตลาดภาพยนตร์นั้นได้ตายไปแล้ว โดยไม่ได้ตายเฉพาะเพียงตลาดภาพยนตร์ที่สร้างจากเกม แต่หมายรวมถึงตลาดภาพยนตร์ทั้งหมด
"คุณไม่สามารถทำเงินสร้างรายได้จากภาพยนตร์ได้อีกแล้ว เพราะว่าตอนนี้ตลาดดีวีดีและบลูเรย์ทั่วโลกลดต่ำลงถึง 80 เปอร์เซนต์ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่สามารถหาเงินเลี้ยงชีพได้จากการทำภาพยนตร์"
อูเว่ โบล ยืนยันว่าตัวเองไม่มีความสนใจที่จะทำภาพยนตร์แบบเด็กนักเรียนที่ใช้ทุนงบประมาณต่ำ "ในชีวิตผมเคยทำภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง และผมไม่สามารถใช้งบต้นทุนต่ำสร้างภาพยนตร์ต้นทุนต่ำได้ มันค่อนข้างเป็นเรื่องน่าอาย ผมมีความสุขที่จะได้ทำภาพยนตร์ แต่ตอนนี้มันไม่สามารถทำกำไรได้"
ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเยอรมันผู้นี้เริ่มควักเงินตัวเองทำภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี 2005 และเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมาได้มีการทำโครงการระดมทุนเพื่อสร้างภาพยนตร์ Rampage ภาคที่ 3 ในชื่อ No Mercy แต่ปรากฏว่าพอสิ้นสุดโครงการเงินระดมทุนก็ไม่ถึงเป้าที่วางไว้จนต้องยกเลิกโปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่องนี้ไป ทิ้งให้ภาพยนตร์ Rampage: President Down เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของอูเว่ โบล ที่ออกไปเมื่อช่วงต้นปีผ่านช่องทางดิจิตอล อย่าง Netflix หรือ iTunes
ปัจจุบัน อูเว่ โบล ทำงานเกี่ยวกับธุรกิจจัดจำหน่ายภาพยนตร์ รวมถึงมีร้านอาหารในแวนคูเวอร์ สหรัฐอเมริกา
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*