ครม. ไฟเขียวยุทธศาสตร์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะ 3 หนุนอุตสาหกรรมหนังไทย สร้างรายได้เข้าประเทศ
วันนี้ (24 พ.ค.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอ โดยมีสาระสำคัญ 5 เรื่อง คือ 1. พัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยให้เป็นมืออาชีพ 2. ส่งเสริมและพัฒนาตลาดภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทย 3. ส่งเสริมการปกป้องและคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของงานภาพยนตร์และวีดิทัศน์ 4. ส่งเสริมความร่วมมือในการลงทุนระหว่างประเทศ และรวมธุรกิจถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย และ 5. พัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ซึ่งในการขับเคลื่อนจะมีหน่วยงานหลักรับผิดชอบและบูรณาการความร่วมมือกัน ได้แก่ วธ. กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงการต่างประเทศ
ทั้งนี้ จากยุทธศาสตร์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ มา 2 ระยะพบว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีรายงานชัดเจนว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นทุกปี และล่าสุด ในปี 2557 มีข้อมูลจากสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ระบุว่า มูลค่ารายได้อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศไทยเฉพาะในส่วนการดำเนินธุรกิจทั่วไปมีมูลค่าถึง 57,700 ล้านบาท ประกอบกับผลการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ยังพบว่า มูลค่ารายได้อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (รวมเกมออนไลน์ ธุรกิจเพลง ภาพยนตร์ออนไลน์ บริการที่เกี่ยวข้องหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-books) และแอปพลิเคชัน) มีมูลค่าสูงถึง 342,300 ล้านบาท ดังนั้น หากรวมมูลค่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ทุกประเภททำให้มีมูลค่าสูงถึง 400,000 ล้านบาท
นายวีระ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวถือว่าสำคัญมาก เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของอาเซียน และนำไปสู่การเป็นแหล่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่สำคัญในตลาดโลก รวมถึงจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในสายตาชาวโลกด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (24 พ.ค.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอ โดยมีสาระสำคัญ 5 เรื่อง คือ 1. พัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยให้เป็นมืออาชีพ 2. ส่งเสริมและพัฒนาตลาดภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทย 3. ส่งเสริมการปกป้องและคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของงานภาพยนตร์และวีดิทัศน์ 4. ส่งเสริมความร่วมมือในการลงทุนระหว่างประเทศ และรวมธุรกิจถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย และ 5. พัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ซึ่งในการขับเคลื่อนจะมีหน่วยงานหลักรับผิดชอบและบูรณาการความร่วมมือกัน ได้แก่ วธ. กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงการต่างประเทศ
ทั้งนี้ จากยุทธศาสตร์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ มา 2 ระยะพบว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีรายงานชัดเจนว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นทุกปี และล่าสุด ในปี 2557 มีข้อมูลจากสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ระบุว่า มูลค่ารายได้อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศไทยเฉพาะในส่วนการดำเนินธุรกิจทั่วไปมีมูลค่าถึง 57,700 ล้านบาท ประกอบกับผลการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ยังพบว่า มูลค่ารายได้อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (รวมเกมออนไลน์ ธุรกิจเพลง ภาพยนตร์ออนไลน์ บริการที่เกี่ยวข้องหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-books) และแอปพลิเคชัน) มีมูลค่าสูงถึง 342,300 ล้านบาท ดังนั้น หากรวมมูลค่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ทุกประเภททำให้มีมูลค่าสูงถึง 400,000 ล้านบาท
นายวีระ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวถือว่าสำคัญมาก เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของอาเซียน และนำไปสู่การเป็นแหล่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่สำคัญในตลาดโลก รวมถึงจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในสายตาชาวโลกด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่