บอร์ดภาพยนตร์ เตรียมเสนอ 5 ยุทธศาสตร์ให้ ครม. พิจารณา หากได้ไฟเขียวจะพัฒนาตลาดภาพยนตร์ไทย และชาวต่างชาติเข้ามาใช้สถานที่ถ่ายทำ สร้างรายได้ให้ประเทศปีละหลายพันล้านบาท
วันนี้ (23 ก.ย.) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ครั้งที่ 7 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564 ) แล้ว ทั้งนี้ จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปปฏิบัติ เป็นภาพใหญ่สู่ความสำเร็จในการสร้างรายได้เข้าประเทศ ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ 1. การพัฒนาบุคลากรในการผลิตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของไทยให้เป็นมืออาชีพ ตรงตามความต้องการของตลาดอุตสาหกรรม สร้างความร่วมมือทางวิชาการและการประกอบอาชีพในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งมีหน่วยหลักที่จะร่วมขับเคลื่อน ได้แก่ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) 2. การส่งเสริมและพัฒนาตลาดภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทย ทั้งการจัดพื้นที่ฉายภาพยนตร์ พัฒนาตลาดภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ใช้สื่อภาพยนตร์ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเยาวชนไทย และส่งเสริมให้คนไทยรักภาพยนตร์ไทย โดยกำหนดให้ วธ. กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) และไอซีที เป็นหน่วยหลักร่วมกันขับเคลื่อน
3. ส่งเสริมการปกป้องและคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของงานภาพยนตร์และวีดิทัศน์ อาทิ การบังคับใช้กฎหมายและแก้ไขกฎหมายเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาในระบบการจัดจำหน่ายแผ่นวีดิทัศน์ สินค้าอื่น ๆ และในระบบออนไลน์ โดยมี พณ. และไอซีที ร่วมดูแล 4. ส่งเสริมความร่วมมือในการร่วมลงทุนระหว่างประเทศ รวมธุรกิจถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยมีการจัดทำแผนความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ร่วมกับต่างประเทศ ประชาสัมพันธ์ให้ต่างชาติ เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศไทย โดยใช้มาตรการลดหน่อยภาษีจูงใจในการลงทุนในธุรกิจภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ซึ่งกำหนดให้ วธ. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พณ. กต. และไอซีที รับผิดชอบดูแล 5. พัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ด้วยการปรับโครงสร้างและกลไกการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลและส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์โดยเฉพาะ
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า จากสถิติตั้งแต่เดือน ม.ค. - ส.ค. 2558 ได้มีชาวต่างชาติเข้ามาใช้สถานที่ประเทศไทยถ่ายทำภาพยนตร์กว่า 420 เรื่อง มีรายได้เข้าประเทศ กว่า 2,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ถ้าหากสามารถให้นำมาลดหย่อนภาษีได้ จะจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาถ่ายภาพยนตร์ในไทยเพิ่มขึ้น และสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้หลายพันล้านบาท หากยุทธศาสตร์นี้ผ่าน ครม. ไทยจะต้องจัดโรดโชว์เปิดตลาด เพื่อเชิญชวนต่างชาติเข้ามาใช้สถานที่ถ่ายภาพยนตร์ เมื่อภาพยนตร์ฉายแล้วเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวสนใจเข้ามาเที่ยวเมืองไทยด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่