xs
xsm
sm
md
lg

สปสช.ย้ำเงินจาก อภ.ไม่ใช่ส่วนลดค่ายา เผยเคยให้เอ็นจีโอ 1.5 แสนบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สปสช. ย้ำ สนับสุนนภาครัฐจาก อภ. ไม่ใช่ส่วนลดจากการซื้อยา เผยแต่ละปีได้รับประมาณ 80 - 100 ล้านบาท ให้หน่วยบริการ 80% พัฒนาระบบอีก 20% เผยปี 57 - 59 สนับสนุนเอ็นจีโอ 1.5 แสนบาท

จากกรณีมีการระบุว่า เมื่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดซื้อยาปริมาณมากจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะได้รับเงินส่วนลด และมีการกันเงินนี้ไปมอบให้กลุ่มเอ็นจีโอดำเนินการภารกิจองค์กร

วันนี้ (23 มิ.ย.) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า อภ. ได้ชี้แจงหลายครั้ง ว่า เงินดังกล่าวนั้น ไม่ใช่ส่วนลดจากการซื้อยา แต่เป็นเงินที่ อภ. ให้การสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในลักษณะการให้สวัสดิการนอกเหนือจากส่วนลดที่ได้ให้ไว้แล้วแก่หน่วยงานรัฐ ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของ อภ. ซึ่งเงินสนับสนุนดังกล่าวไม่ถือเป็นเงินค่านายหน้า หรือเงินค่าคอมมิชชั่น ไม่ใช่เงินส่วนลด และไม่ใช่เป็นเงินส่งเสริมการขาย กำหนดเบิกจ่ายภายใน 1 ปี หากไม่เบิกจ่ายเงินนี้จะเข้าสู่บัญชี อภ.

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า มีการนำเงินดังกล่าวไปสนับสนุนเอ็นจีโอนั้น ล่าสุด ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นจับประเด็นผิด ซึ่งส่วนนี้ สปสช. ขอชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ในการใช้จ่ายเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐในส่วนนี้ เป็นการใช้ตามข้อบังคับองค์การเภสัชกรรมว่าด้วยเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐ พ.ศ. 2546 เพื่อให้การสนับสนุนและส่งเสริมทางด้านการบริหาร วิชาการ การวิจัย การพัฒนา การอบรมสัมมนา การศึกษาดูงาน การศึกษาต่อเนื่อง รวมทั้งการสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์อื่น โดยในส่วนของเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐที่ สปสช. ได้รับจาก อภ. นั้น บอร์ด สปสช. ได้ออกระเบียบว่าด้วยเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐ พ.ศ. 2557 ขึ้น ซึ่งระเบียบนี้เป็นไปตามหลักการและเหตุผลของ พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพฯ ที่เน้นการทำงานร่วมกับ อปท. และองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหลักประกันฯ โดยต้องทำเรื่องเสนอโครงการเพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติ แต่ผู้อนุมัติปล่อยเงิน คือ ผอ.อภ.

“สัดส่วนการจัดสรรเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐนี้ ร้อยละ 80 ตามโครงการหรือกิจกรรม เพื่อสนับสนุนและพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยบริการและบุคลากรของหน่วยบริการ และอีกร้อยละ 20 เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานการพัฒนาระบบ หรือเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รวมทั้งกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2557 - 2559 มีโครงการที่สนับสนุนเอ็นจีโอ 1 โครงการ คือ โครงการเพิ่มการเข้าถึงการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ โดยเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์แห่งประเทศไทย วงเงิน 1.5 แสนบาท” ทพ.อรรถพร กล่าว

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สำหรับตัวอย่างโครงการที่สนับสนุนกรมและสมาคมต่างๆ เช่น โครงการจัดทำเกณฑ์อ้างอิงการเจริญเติบโตของเด็กอายุ 5 - 19 ปี กรมอนามัย วงเงิน 2.4 ล้านบาท โครงการถอดบทเรียนและพัฒนาศักยภาพความเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านแพทย์แผนไทย กรณีศึกษา จ.สกลนคร ให้กับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จำนวน 893,300 บาท โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายวิชาชีพและประชาชนในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยสมาคมพยาบาลโรคหัวใจและทรวงอก จำนวน 1.5 ล้านบาท โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการแพทย์แผนไทยในหน่วยบริการปฐมภูมิในพื้นที่เขต 3 นครสวรรค์ (หลักสูตรผู้ช่วยแพทย์แผนไทย 330 ชั่วโมง) รพ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี วงเงิน 503,820 บาท เป็นต้น ล่าสุด ปี 2560 สปสช. ไม่ได้ดำเนินการเพื่อส่งโครงการจากหน่วยบริการ กรม มูลนิธิต่างๆ เพื่อขออนุมัติใช้งบประมาณในส่วนนี้ เพื่อต้องการลดปัญหาที่มีผู้ไม่หวังดีขยายข้อมูลไม่ถูกต้อง แต่อาจถูกตั้งข้อสังเกตจากหน่วยตรวจสอบ ว่า การไม่ขอรับเงินส่วนนี้อาจเข้าข่ายสร้างความเสียหายให้กับสำนักงานได้

“แต่ละปีมีเงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐในส่วนนี้สำหรับ สปสช. ประมาณ 80 - 100 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ สปสช. เคยทำหนังสือแจ้ง อภ. ว่า เห็นควรให้จัดสรรเงินดังกล่าวไปให้กับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ในฐานะหน่วยกำกับดูแลและสนับสนุนหน่วยบริการในวงเงิน 75 ล้านบาท แต่ สตง. เห็นว่า หากให้ สป.สธ. เป็นผู้ดำเนินการแทนอาจถือเป็นการขัดต่อข้อบังคับของ อภ. ไม่ตรงประเด็นตามข้อเสนอแนะของ สตง. และอาจขัดต่อ พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 จึงได้แนะนำให้ สปสช. ออกระเบียบการใช้เงินดังกล่าว และต่อมาคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจึงได้ออกระเบียบการใช้จ่ายเงินดังกล่าวขึ้น” ทพ.อรรถพร กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น