สปสช.เผย สธ.ออกประกาศกำหนดเกณฑ์จ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา “บุคลากรสาธารณสุข” รับผลกระทบจากการให้บริการใน 3 กรณี หลัง สตง.ตีความใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ แต่ “บิ๊กตู่” ใช้ ม.44 ช่วยปลดล็อก
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา รักษาการเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยตีความการจ่ายเงินช่วยเหลือบุคลากรสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2559 ให้สามารถนำเงินจากกองทุนบัตรทองมาช่วยเหลือบุคลากรสาธารณสุขได้ ว่าหลังจากมีคำสั่ง มาตรา 44 จึงได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การรับเงิน การจ่ายเงิน การรักษาเงิน และรายการของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการสนับสนและส่งเสริมการจัดบริการสาธารณสุขและค่าใช่จ่ายอื่น ลงนามโดย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2559 ในหมวด 5 กำหนดรายละเอียดการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหาย 3 กรณี คือ 1. กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพอย่างถาวร 240,000-400,000 บาท 2. กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต 100,000-240,000 บาท และ 3. กรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง ไม่เกิน 100,000 บาท
นพ.ศักดิ์ชัยกล่าวว่า ขั้นตอนคือ บุคลากรสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายยื่นคำร้องที่ สปสช.สาขาเขตพื้นที่หรือหน่วยบริการที่ปฏิบัติหน้าภายใน 1 ปี คณะอนุกรรมพิจารณาวินิจฉัยคำร้องจะพิจารณาภายใน 30 วัน แต่หากมีเหตุผลจำเป็นสามารถอนุมัติขยายเวลาพิจารณาได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. โทร.1330
ทั้งนี้ มีรายงานว่าตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือบุคลากรสาธารณสุข จนถึงเดือน ม.ค. 2559 นั้น ได้ช่วยเหลือบุคลากรสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหาย 4,570 ราย แบ่งเป็น เสียชีวิต 24 ราย พิการ 17 ราย บาดเจ็บ 4,529 ราย รวมเป็นเงิน 51,086,850 บาท ประเภทความเสียหาย เช่น ติดวัณโรคจากผู้ป่วย เข็มตำ ผู้ป่วยกระทำ สัมผัสสารคัดหลั่ง ของมีคมบาด อุบัติเหตุรถส่งต่อ เป็นต้น บุคลากรสาธารณที่ได้รับความเสียหาย ตามลำดับ ดังนี้ พยาบาล ผู้ช่วยเหลือคนไข้ แพทย์ คนงาน เจ้าพนักงานสาธารณสุข และเภสัชกร