สธ. ยันไม่ยุบกองทุนโรคเฉพาะทาง แค่ลดความซ้ำซ้อน สิ้นเปลืองทรัพยากรและบุคลากร แฉทำรายจ่ายโรงพยาบาลติดลบ 30-60% ลั่นปรับระบบให้ดีขึ้นแต่ไม่ลดทอนสิทธิที่ประชาชนมี ช่วยโรคเฉพาะทางบางกลุ่มที่ สปสช. ไม่กำหนด มีโอกาสรับสิทธิประโยชน์ด้วย
นพ.บัญชา ค้าของ ผู้อำนวยการกลุ่มประกันสุขภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีการยุบกองทุนโรคเฉพาะทางแน่นอน แต่จะเน้นบูรณาการกองทุนย่อยให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้บริหารง่ายขึ้น ลดความซ้ำซ้อนสิ้นเปลือง ประชาชนยังคงได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนเดิม คุณภาพการให้บริการดีขึ้น ทั้งนี้ การจัดงบเหมาจ่ายรายหัวเป็น 4 หมวด จะส่งผลดีต่อสถานบริการ ส่วนกองทุนย่อยๆ ที่กำหนดโดยกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีเป้าหมายให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด ก็เป็นสิ่งที่ สธ. ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่กลไกการจัดบริการแตกเป็นกองทุนย่อยๆ ทำให้เกิดความซ้ำซ้อน สิ้นเปลืองจากการใช้ทรัพยากรและใช้อัตรากำลังบุคลากรมากขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันโรงพยาบาลต้องจ้างคน จ่ายค่าตอบแทน และลงทุนด้านต่างๆ ส่งผลให้มีรายจ่ายติดลบ 30-60% จึงต้องปรับระบบการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด บนเงื่อนไขที่ต้องไม่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ประชาชน
นพ.บัญชา กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการระดมความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาค ตั้งแต่ระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทำประชาพิจารณ์ 4 ภาค ซึ่งมิได้มีข้อเสนอยุบกองทุนตามแต่อย่างใด แต่เน้นการบูรณาการกองทุนย่อยให้เป็นหมวดหมู่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถปรับเกลี่ยและลดความซ้ำซ้อนได้ กระจายการบริหารกองทุนเหล่านี้ลงสู่เขตสุขภาพ บริหารร่วมกันระหว่างเขตสุขภาพของกระทรวงฯ กับ สปสช. สาขาเขต ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“สำคัญคือโปร่งใสตรวจสอบได้ แต่ยังคงสิทธิประโยชน์ของประชาชนเหมือนเดิม ไม่ได้มีเจตนาไปลดสิทธิประโยชน์ของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคไต มะเร็ง ผู้ติดเชื้อเอชไอวี วัณโรค ฮีโมฟีเลีย หรือผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ทุกกลุ่มยังได้รับการรักษาด้วยมาตรฐานเหมือนเดิม ได้รับยาเหมือนเดิม รวมทั้งอาจจะมีผู้ป่วยโรคเฉพาะกลุ่มอื่นๆ ที่ สปสช. ส่วนกลางยังมิได้กำหนดไว้ แต่เป็นปัญหาเฉพาะพื้นที่ เขตบริการสุขภาพสามารถกำหนดแนวทางการบริหารเอง เพื่อให้เหมาะสมแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ได้” นพ.บัญชา กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.บัญชา ค้าของ ผู้อำนวยการกลุ่มประกันสุขภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีการยุบกองทุนโรคเฉพาะทางแน่นอน แต่จะเน้นบูรณาการกองทุนย่อยให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้บริหารง่ายขึ้น ลดความซ้ำซ้อนสิ้นเปลือง ประชาชนยังคงได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนเดิม คุณภาพการให้บริการดีขึ้น ทั้งนี้ การจัดงบเหมาจ่ายรายหัวเป็น 4 หมวด จะส่งผลดีต่อสถานบริการ ส่วนกองทุนย่อยๆ ที่กำหนดโดยกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีเป้าหมายให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด ก็เป็นสิ่งที่ สธ. ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่กลไกการจัดบริการแตกเป็นกองทุนย่อยๆ ทำให้เกิดความซ้ำซ้อน สิ้นเปลืองจากการใช้ทรัพยากรและใช้อัตรากำลังบุคลากรมากขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันโรงพยาบาลต้องจ้างคน จ่ายค่าตอบแทน และลงทุนด้านต่างๆ ส่งผลให้มีรายจ่ายติดลบ 30-60% จึงต้องปรับระบบการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด บนเงื่อนไขที่ต้องไม่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ประชาชน
นพ.บัญชา กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการระดมความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาค ตั้งแต่ระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทำประชาพิจารณ์ 4 ภาค ซึ่งมิได้มีข้อเสนอยุบกองทุนตามแต่อย่างใด แต่เน้นการบูรณาการกองทุนย่อยให้เป็นหมวดหมู่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถปรับเกลี่ยและลดความซ้ำซ้อนได้ กระจายการบริหารกองทุนเหล่านี้ลงสู่เขตสุขภาพ บริหารร่วมกันระหว่างเขตสุขภาพของกระทรวงฯ กับ สปสช. สาขาเขต ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“สำคัญคือโปร่งใสตรวจสอบได้ แต่ยังคงสิทธิประโยชน์ของประชาชนเหมือนเดิม ไม่ได้มีเจตนาไปลดสิทธิประโยชน์ของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคไต มะเร็ง ผู้ติดเชื้อเอชไอวี วัณโรค ฮีโมฟีเลีย หรือผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ทุกกลุ่มยังได้รับการรักษาด้วยมาตรฐานเหมือนเดิม ได้รับยาเหมือนเดิม รวมทั้งอาจจะมีผู้ป่วยโรคเฉพาะกลุ่มอื่นๆ ที่ สปสช. ส่วนกลางยังมิได้กำหนดไว้ แต่เป็นปัญหาเฉพาะพื้นที่ เขตบริการสุขภาพสามารถกำหนดแนวทางการบริหารเอง เพื่อให้เหมาะสมแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ได้” นพ.บัญชา กล่าว
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
