สปสช. เตรียมโอนงบเหมาจ่ายรายหัวล่วงหน้ากว่า 7 พันล้านบาทลงหน่วยบริการ ยึดคำนวณจากข้อมูล สธ. ที่จัดส่งให้ สปสช. ล่าสุด ระบุหากการคำนวณพบหน่วยบริการได้รับงบจัดสรรเป็นลบ จะยึดคำนวณจากเงินล่วงหน้าปี 56 ตามที่ สสจ. ปรับเกลี่ยแล้วแทน พร้อมเร่งประสานด่วน ขอความร่วมมือ สธ. เพื่อหารือทบทวนเพื่อปรับปรุงข้อมูลต่อไป
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ภารกิจหลักของ สปสช. คือ การบริหารจัดการงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาล ในฐานะผู้จัดหาบริการสาธารณสุข โดยจะกระจายงบประมาณไปยังหน่วยบริการทั่วประเทศ ในจำนวนนี้เป็นหน่วยบริการซึ่งสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ที่เป็นผู้จัดบริการสาธารณสุขรายใหญ่ ซึ่งในการจัดสรรงบประมาณกระจายหน่วยบริการสังกัด สป.สธ. ต้องใช้รายรับของหน่วยบริการร่วมกับข้อมูลเงินเดือนบุคลากรที่ชัดเจน เพื่อคำนวณจัดสรรงบประมาณไปยังหน่วยบริการ ซึ่งเป็นข้อมูลจาก สป.สธ.
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ทั้งนี้ จากข้อมูลเงินเดือนและการปรับเกลี่ยงบเหมาจ่ายรายหัว ปี 2557 ของหน่วยบริการ สป.สธ. ซึ่งส่งให้กับ สปสช. ล่าสุด ทาง สปสช. ได้ตั้งข้อสังเกตข้อมูลที่ได้รับครั้งนี้ เนื่องจากผลลัพธ์จากการคำนวณของ สป.สธ. ปรากฏหน่วยบริการได้รับการจัดสรรงบประมาณเป็นตัวเลขติดลบ 2 แห่ง และมีหน่วยบริการอีกจำนวนหนึ่งที่ได้รับการจัดสรรงบค่อนข้างต่ำ ซึ่งหาก สปสช. ยึดข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้หน่วยบริการเกิดปัญหาได้ ดังนั้น ในหน่วยบริการที่มีปัญหาจากการคำนวณเหล่านี้ ทาง สปสช. จะใช้ข้อมูลการจัดสรรเงินล่วงหน้าปี 2556 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปรับเกลี่ยนแทน สำหรับงบที่ทาง สปสช. จะจัดสรรเพิ่มเติมในรอบนี้จะอยู่ที่ 7,830,374,224 บาท คาดว่าจะโอนไปยังหน่วยบริการในสัปดาห์นี้
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า จากข้อสังเกตที่พบนี้ ทาง สปสช. จึงได้ประสานไปยังผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมประชุมหารือในการตรวจทานและปรับปรุงตัวเลขข้อมูลดังกล่าว โดยผู้เกี่ยวข้องมีตั้งแต่รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน (CFO) ของเขต สธ. และสำนักงานสาธารณสุข ทั้งนี้ สปสช. ขอความกรุณาให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมที่ได้ประสานไปในครั้งนี้ เพื่อทำให้ข้อมูลเกิดความชัดเจน และยังน่าจะทำให้การจัดสรรงบประมาณในปีถัดไปมีความราบรื่นและรวดเร็ว เป็นผลดีต่อทั้งหน่วยบริการ และการบริการประชาชนในที่สุด
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ภารกิจหลักของ สปสช. คือ การบริหารจัดการงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาล ในฐานะผู้จัดหาบริการสาธารณสุข โดยจะกระจายงบประมาณไปยังหน่วยบริการทั่วประเทศ ในจำนวนนี้เป็นหน่วยบริการซึ่งสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ที่เป็นผู้จัดบริการสาธารณสุขรายใหญ่ ซึ่งในการจัดสรรงบประมาณกระจายหน่วยบริการสังกัด สป.สธ. ต้องใช้รายรับของหน่วยบริการร่วมกับข้อมูลเงินเดือนบุคลากรที่ชัดเจน เพื่อคำนวณจัดสรรงบประมาณไปยังหน่วยบริการ ซึ่งเป็นข้อมูลจาก สป.สธ.
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ทั้งนี้ จากข้อมูลเงินเดือนและการปรับเกลี่ยงบเหมาจ่ายรายหัว ปี 2557 ของหน่วยบริการ สป.สธ. ซึ่งส่งให้กับ สปสช. ล่าสุด ทาง สปสช. ได้ตั้งข้อสังเกตข้อมูลที่ได้รับครั้งนี้ เนื่องจากผลลัพธ์จากการคำนวณของ สป.สธ. ปรากฏหน่วยบริการได้รับการจัดสรรงบประมาณเป็นตัวเลขติดลบ 2 แห่ง และมีหน่วยบริการอีกจำนวนหนึ่งที่ได้รับการจัดสรรงบค่อนข้างต่ำ ซึ่งหาก สปสช. ยึดข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้หน่วยบริการเกิดปัญหาได้ ดังนั้น ในหน่วยบริการที่มีปัญหาจากการคำนวณเหล่านี้ ทาง สปสช. จะใช้ข้อมูลการจัดสรรเงินล่วงหน้าปี 2556 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปรับเกลี่ยนแทน สำหรับงบที่ทาง สปสช. จะจัดสรรเพิ่มเติมในรอบนี้จะอยู่ที่ 7,830,374,224 บาท คาดว่าจะโอนไปยังหน่วยบริการในสัปดาห์นี้
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า จากข้อสังเกตที่พบนี้ ทาง สปสช. จึงได้ประสานไปยังผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมประชุมหารือในการตรวจทานและปรับปรุงตัวเลขข้อมูลดังกล่าว โดยผู้เกี่ยวข้องมีตั้งแต่รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน (CFO) ของเขต สธ. และสำนักงานสาธารณสุข ทั้งนี้ สปสช. ขอความกรุณาให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมที่ได้ประสานไปในครั้งนี้ เพื่อทำให้ข้อมูลเกิดความชัดเจน และยังน่าจะทำให้การจัดสรรงบประมาณในปีถัดไปมีความราบรื่นและรวดเร็ว เป็นผลดีต่อทั้งหน่วยบริการ และการบริการประชาชนในที่สุด
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่