สปสช. เสนอ อภ. ปรับระเบียบซื้อยา ทำใบเสนอราคาในคราวเดียว ช่วยวางแผนการผลิตได้ทัน ลดขั้นตอนยุ่งยากลง หลังถูกจวกผลิตยาไม่ทันจนกระทบผู้ป่วย
วันนี้ (20 ส.ค.) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีภาคประชาชนกังวลยาต้านไวรัสที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดส่งให้ สปสช. ไม่เพียงพอ จากการจัดส่งล่าช้า ว่า เรื่องนี้มาจากกระบวนการจัดซื้อที่ล่าช้า แต่ได้มีการพูดคุยหารือกันตลอดในระดับผู้ปฏิบัติงาน โดยฝ่ายผลิต ของ อภ. แจ้งว่าจะผลิตได้ทัน ส่วนประเด็น สปสช. ยืมยาต้านไวรัสเอชไอวีจาก อภ. กรณียาต้านไวรัสฯกลุ่มลามิวูดีน ที่เหลืออยู่ในสต๊อกไม่ถึงครึ่งเดือนนั้น จริงๆ แล้ว ตามกระบวนการขั้นตอนการจัดซื้อยาของ สปสช. จะมีการทำแผนความต้องการยาไปยัง อภ. ล่วงหน้า 6 เดือน ซึ่งรวมทั้งยาตัวนี้ด้วย ซึ่งหลังจากนั้น อภ. จะต้องทำใบเสนอราคามาเพื่อให้พิจารณา และ สปสช. จะทำใบจัดซื้อ
“เราได้ทำหนังสือไปยัง อภ. นานแล้ว แต่ อภ. ยังไม่มีใบเสนอราคามา ล่าสุด ได้หารือและพูดคุยกันแล้วว่า จะมีการดำเนินการต่อ ซึ่งสรุปได้ว่าปัญหาไม่ได้มาจาก อภ. หรือ สปสช. ไม่หารือกัน แต่มาจากขั้นตอนที่ทำให้ช้า ซึ่งทาง สปสช. เคยเสนอต่อ อภ. รวมทั้งอดีตคณะกรรมการ (บอร์ด) อภ. ในการปรับระเบียบการจัดซื้อ แทนที่จะพิจารณาเป็นรายการยา ก็ควรพิจารณาแบบทุกรายการตลอดปีแทน เพราะ สปสช. แจ้งความต้องการยาล่วงหน้าไปทั้งปี ซึ่ง อภ. จะทราบล่วงหน้าเพื่อเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ดังนั้น หากพิจารณาทำการเสนอราคาในคราวเดียวกันหมด ก็จะลดขั้นตอนความล่าช้าลงได้ แต่เข้าใจว่าตอนนี้อาจยังไม่มีบอร์ด อภ. ชุดใหม่ การพิจารณาหรือตัดสินใจใดๆ จึงต้องรอก่อน” ทพ.อรรถพร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนที่ สปสช. ยืมยาต้านไวรัสเอชไอวีเอฟฟาไวเรนซ์ (Efavirenz) กับ อภ. มาจากปัญหาเรื่องขั้นตอนการจัดซื้อด้วยหรือไม่ ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ยาดังกล่าวได้สั่งซื้อจากอินเดีย แต่เกิดปัญหาทางฝั่งบริษัทต้นทาง และตรวจสอบคุณภาพไม่ได้ จึงต้องคืนกลับ และ อภ. ก็ผลิตเองส่งมายัง สปสช. ซึ่งขณะนั้นต้องมีการทำใบสั่งซื้อใหม่ ทำให้ต้องใช้เวลา จึงต้องทำเรื่องยืมยา อภ.
ด้าน นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีการยืมยาของ สปสช. ยังไม่ได้สอบถามข้อเท็จจริง แต่เห็นว่าการที่ อภ. เสนอให้ สปส. ยืมยาจาก สปสช. นั้นเหมาะสมหรือไม่ เพราะยังไม่มีกรอบระยะเวลาชัดเจนว่าจะส่งยาให้ สปส. เมื่อไร ที่สำคัญต้องยอมรับว่า อภ. ผลิตยาไม่ทันจริงๆ จึงเกิดปัญหาตรงนี้ ซึ่งทั้งหมดขอยืนยันให้ผู้อำนวยการ อภ. รับผิดชอบ และขอให้บอร์ด อภ. ชุดใหม่พิจารณาความเหมาะสมตรงนี้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (20 ส.ค.) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีภาคประชาชนกังวลยาต้านไวรัสที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดส่งให้ สปสช. ไม่เพียงพอ จากการจัดส่งล่าช้า ว่า เรื่องนี้มาจากกระบวนการจัดซื้อที่ล่าช้า แต่ได้มีการพูดคุยหารือกันตลอดในระดับผู้ปฏิบัติงาน โดยฝ่ายผลิต ของ อภ. แจ้งว่าจะผลิตได้ทัน ส่วนประเด็น สปสช. ยืมยาต้านไวรัสเอชไอวีจาก อภ. กรณียาต้านไวรัสฯกลุ่มลามิวูดีน ที่เหลืออยู่ในสต๊อกไม่ถึงครึ่งเดือนนั้น จริงๆ แล้ว ตามกระบวนการขั้นตอนการจัดซื้อยาของ สปสช. จะมีการทำแผนความต้องการยาไปยัง อภ. ล่วงหน้า 6 เดือน ซึ่งรวมทั้งยาตัวนี้ด้วย ซึ่งหลังจากนั้น อภ. จะต้องทำใบเสนอราคามาเพื่อให้พิจารณา และ สปสช. จะทำใบจัดซื้อ
“เราได้ทำหนังสือไปยัง อภ. นานแล้ว แต่ อภ. ยังไม่มีใบเสนอราคามา ล่าสุด ได้หารือและพูดคุยกันแล้วว่า จะมีการดำเนินการต่อ ซึ่งสรุปได้ว่าปัญหาไม่ได้มาจาก อภ. หรือ สปสช. ไม่หารือกัน แต่มาจากขั้นตอนที่ทำให้ช้า ซึ่งทาง สปสช. เคยเสนอต่อ อภ. รวมทั้งอดีตคณะกรรมการ (บอร์ด) อภ. ในการปรับระเบียบการจัดซื้อ แทนที่จะพิจารณาเป็นรายการยา ก็ควรพิจารณาแบบทุกรายการตลอดปีแทน เพราะ สปสช. แจ้งความต้องการยาล่วงหน้าไปทั้งปี ซึ่ง อภ. จะทราบล่วงหน้าเพื่อเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ดังนั้น หากพิจารณาทำการเสนอราคาในคราวเดียวกันหมด ก็จะลดขั้นตอนความล่าช้าลงได้ แต่เข้าใจว่าตอนนี้อาจยังไม่มีบอร์ด อภ. ชุดใหม่ การพิจารณาหรือตัดสินใจใดๆ จึงต้องรอก่อน” ทพ.อรรถพร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนที่ สปสช. ยืมยาต้านไวรัสเอชไอวีเอฟฟาไวเรนซ์ (Efavirenz) กับ อภ. มาจากปัญหาเรื่องขั้นตอนการจัดซื้อด้วยหรือไม่ ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ยาดังกล่าวได้สั่งซื้อจากอินเดีย แต่เกิดปัญหาทางฝั่งบริษัทต้นทาง และตรวจสอบคุณภาพไม่ได้ จึงต้องคืนกลับ และ อภ. ก็ผลิตเองส่งมายัง สปสช. ซึ่งขณะนั้นต้องมีการทำใบสั่งซื้อใหม่ ทำให้ต้องใช้เวลา จึงต้องทำเรื่องยืมยา อภ.
ด้าน นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีการยืมยาของ สปสช. ยังไม่ได้สอบถามข้อเท็จจริง แต่เห็นว่าการที่ อภ. เสนอให้ สปส. ยืมยาจาก สปสช. นั้นเหมาะสมหรือไม่ เพราะยังไม่มีกรอบระยะเวลาชัดเจนว่าจะส่งยาให้ สปส. เมื่อไร ที่สำคัญต้องยอมรับว่า อภ. ผลิตยาไม่ทันจริงๆ จึงเกิดปัญหาตรงนี้ ซึ่งทั้งหมดขอยืนยันให้ผู้อำนวยการ อภ. รับผิดชอบ และขอให้บอร์ด อภ. ชุดใหม่พิจารณาความเหมาะสมตรงนี้
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
