ศ.พญ. ยุพิน ศุพุทธมงคล
ภาควิชาอายุรศาสตร์
ช่วงนี้มีข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้ซิกาในหลายภูมิภาคของโลก รวมทั้งประเทศไทย เรามาทำความรู้จักโรคไข้ซิกากันเถอะ
โรคไข้ซิกาเกิดจากอะไร
โรคไข้ซิกา สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะ การป่วยจึงเกิดจากถูกยุงลายที่มีเชื้อนี้กัด เช่นเดียวกับการป่วยเป็นโรคไข้เด็งกี่ หรือไข้เลือดออก การติดเชื้อทางอื่น ๆ ได้แก่ การแพร่เชื้อจากมารดาที่ป่วยขณะตั้งครรภ์สู่ทารก หรือจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อซึ่งไม่มีอาการป่วย ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคนี้บางรายอาจมีอาการแทรกซ้อนรุนแรงได้ดังจะกล่าวถึงต่อไป
โรคไข้ซิกาอาการเป็นอย่างไร
หลังรับเชื้อคนส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการป่วย และถ้ามีอาการป่วยโดยทั่วไปอาการก็ไม่รุนแรง โดยมักมีอาการไข้ ตาแดงจากเยื่อบุตาขาวอักเสบ ออกผื่น ปวดข้อ อ่อนเพลีย ปวดหลัง ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งคล้ายคลึงกับอาการของโรคไข้เลือดออก อาการต่าง ๆ ดังกล่าวมักไม่รุนแรงและหายป่วยได้เอง แต่หญิงตั้งครรภ์หากติดเชื้ออาจจะทำให้ทารกในครรภ์ติดเชื้อและเกิดความพิการแต่กำเนิดเช่น ทำให้ทารกมีศีรษะเล็ก และสมองฝ่อได้ ดังนั้นหากหญิงตั้งครรภ์มีอาการไข้ ผื่นขึ้น ตาแดง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ ต้องรีบพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ นอกจากนั้น ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดความพิการของระบบประสาทส่วนกลางทำให้แขนขาอ่อนแรงตามมาได้
จะรักษาได้อย่างไร
ปัจจุบันยังไม่มียาฆ่าเชื้อและโรคมักหายได้เอง ดังนั้น แพทย์จะรักษาตามอาการเพื่อบรรเทาการเจ็บป่วย จนอาการต่าง ๆ หายไป เช่น หากมีไข้ให้ใช้ยาพาราเซตามอลลดไข้ หลีกเลี่ยงยาแอสไพริน ผู้ป่วยควรพักผ่อนมาก ๆ ดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ถ้าเป็นหญิงตั้งครรภ์ต้องติดตามอาการทารกในครรภ์จนคลอด
แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้ แต่เราสามารถที่จะป้องกันการป่วยและลดการแพร่กระจายของโรคนี้ได้ด้วยการดูแลตัวเองไม่ให้ถูกยุงกัด และช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย ซึ่งจะลดการติดเชื้อ การแพร่กระจายของโรคไข้ซิกานี้และโรคไข้เลือดออกควบคู่กันไปได้เลยค่ะ
********
กิจกรรมดี ๆ ที่ศิริราช
# ขอเชิญผู้สนใจเข้ารับฟังปาฐกถาพิเศษ เนื่องในวันมหิดล เรื่อง “สมเด็จพระบรมราชชนกทรงศึกษาแพทย์และสาธารณสุข” โดย ศ.พิเศษ ดร.นพ.สรรใจ แสงวิเชียร ในวันเสาร์ที่ 24 กันยายน เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมอทิตยาทรกิติคุณ ตึกสยามินทร์ ชั้น 7 สอบถาม โทร. 02419 2674-5
# พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราชและพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถานเปิดให้ทุกท่านเข้าชมฟรี เนื่องในวันมหิดล 24 กันยายน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 17.00 น. สอบถาม โทร. 0 2419 2671
#ขอเชิญผู้สนใจร่วมงานวันโรคลมพิษโลก “ศิริราชห่วงใย...ชวนใส่ใจ โรคลมพิษ” ในวันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน 2559 เวลา 07.45 - 09.00 น. ณ ห้องประชุมประชา โมกขะเวส หน่วยตรวจโรคผิวหนัง ตึกผู้ป่วยนอก ชั้น 4 (ฟรี) รับจำนวนจำกัด สอบถาม โทร. 09 3883 6934
ภาควิชาอายุรศาสตร์
ช่วงนี้มีข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้ซิกาในหลายภูมิภาคของโลก รวมทั้งประเทศไทย เรามาทำความรู้จักโรคไข้ซิกากันเถอะ
โรคไข้ซิกาเกิดจากอะไร
โรคไข้ซิกา สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะ การป่วยจึงเกิดจากถูกยุงลายที่มีเชื้อนี้กัด เช่นเดียวกับการป่วยเป็นโรคไข้เด็งกี่ หรือไข้เลือดออก การติดเชื้อทางอื่น ๆ ได้แก่ การแพร่เชื้อจากมารดาที่ป่วยขณะตั้งครรภ์สู่ทารก หรือจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อซึ่งไม่มีอาการป่วย ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคนี้บางรายอาจมีอาการแทรกซ้อนรุนแรงได้ดังจะกล่าวถึงต่อไป
โรคไข้ซิกาอาการเป็นอย่างไร
หลังรับเชื้อคนส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการป่วย และถ้ามีอาการป่วยโดยทั่วไปอาการก็ไม่รุนแรง โดยมักมีอาการไข้ ตาแดงจากเยื่อบุตาขาวอักเสบ ออกผื่น ปวดข้อ อ่อนเพลีย ปวดหลัง ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งคล้ายคลึงกับอาการของโรคไข้เลือดออก อาการต่าง ๆ ดังกล่าวมักไม่รุนแรงและหายป่วยได้เอง แต่หญิงตั้งครรภ์หากติดเชื้ออาจจะทำให้ทารกในครรภ์ติดเชื้อและเกิดความพิการแต่กำเนิดเช่น ทำให้ทารกมีศีรษะเล็ก และสมองฝ่อได้ ดังนั้นหากหญิงตั้งครรภ์มีอาการไข้ ผื่นขึ้น ตาแดง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ ต้องรีบพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ นอกจากนั้น ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดความพิการของระบบประสาทส่วนกลางทำให้แขนขาอ่อนแรงตามมาได้
จะรักษาได้อย่างไร
ปัจจุบันยังไม่มียาฆ่าเชื้อและโรคมักหายได้เอง ดังนั้น แพทย์จะรักษาตามอาการเพื่อบรรเทาการเจ็บป่วย จนอาการต่าง ๆ หายไป เช่น หากมีไข้ให้ใช้ยาพาราเซตามอลลดไข้ หลีกเลี่ยงยาแอสไพริน ผู้ป่วยควรพักผ่อนมาก ๆ ดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ถ้าเป็นหญิงตั้งครรภ์ต้องติดตามอาการทารกในครรภ์จนคลอด
แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้ แต่เราสามารถที่จะป้องกันการป่วยและลดการแพร่กระจายของโรคนี้ได้ด้วยการดูแลตัวเองไม่ให้ถูกยุงกัด และช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย ซึ่งจะลดการติดเชื้อ การแพร่กระจายของโรคไข้ซิกานี้และโรคไข้เลือดออกควบคู่กันไปได้เลยค่ะ
********
กิจกรรมดี ๆ ที่ศิริราช
# ขอเชิญผู้สนใจเข้ารับฟังปาฐกถาพิเศษ เนื่องในวันมหิดล เรื่อง “สมเด็จพระบรมราชชนกทรงศึกษาแพทย์และสาธารณสุข” โดย ศ.พิเศษ ดร.นพ.สรรใจ แสงวิเชียร ในวันเสาร์ที่ 24 กันยายน เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมอทิตยาทรกิติคุณ ตึกสยามินทร์ ชั้น 7 สอบถาม โทร. 02419 2674-5
# พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราชและพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถานเปิดให้ทุกท่านเข้าชมฟรี เนื่องในวันมหิดล 24 กันยายน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 17.00 น. สอบถาม โทร. 0 2419 2671
#ขอเชิญผู้สนใจร่วมงานวันโรคลมพิษโลก “ศิริราชห่วงใย...ชวนใส่ใจ โรคลมพิษ” ในวันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน 2559 เวลา 07.45 - 09.00 น. ณ ห้องประชุมประชา โมกขะเวส หน่วยตรวจโรคผิวหนัง ตึกผู้ป่วยนอก ชั้น 4 (ฟรี) รับจำนวนจำกัด สอบถาม โทร. 09 3883 6934