กาฬสินธุ์ - สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ คุมเข้มพื้นที่เสี่ยงแพร่ระบาดโรคไวรัสซิกาทั้ง 18 อำเภอ หลังพบผู้ป่วย 4 ราย ในพื้นที่ อ.นามน พร้อมเอกซเรย์หญิงตั้งครรภ์ควบคุมการแพร่ระบาด
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้ป่วยโรคซิกา ในพื้นที่บ้านโนนสามัคคี หมู่ 5 ต.นามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 4 ราย เนื่องจากคนไข้จากมีอาการไข้ ผื่น และมีตาแดง โดยทั้ง 4 รายเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งมี พ่อ แม่ และลูกอีก 2 คน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
โดยขณะนี้ผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ในการดูแลของแพทย์ ซึ่งสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอนามน ขึ้นเป็นกรณีพิเศษ พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดขอโรคอย่างเร่งด่วนแล้ว
ล่าสุด ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ได้เชิญผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจำอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบงานควบคุมโรคติดต่อทั้ง 18 อำเภอ ร่วมประชุมโต้ตอบภาวะฉุกเฉินกรณีโรคติดเชื้อไวรัสซิกา เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน พร้อมกับชี้แจ้งแนวทางการปฏิบัติเพื่อร่วมกันรณรงค์ป้องกัน และควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดเพิ่ม และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง หลังจากพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสซิกา จำนวน 4 ราย ในพื้นที่ ต.นามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์
นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พบผู้ป่วยมีอาการไข้ ตาแดง มีผื่น และปวดตามข้อ 4 ราย จึงนำเลือด และปัสสาวะของผู้ป่วยทั้งหมดส่งไปตรวจ ซึ่งพบว่ามีเชื้อไวรัสซิกา ดังนั้น สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ จึงได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอนามนขึ้น เป็นกรณีพิเศษ พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เฝ้าระวัง และคุมเข้มการแพร่ระบาดของโรคซิกาตลอด 24 ชั่วโมง
และประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกพ่นยากำจัดยุงลาย และกำจัดตามแหล่งน้ำที่เสี่ยงจะเป็นการเพาะพันธุ์ยุงลาย ตลอดจนการกำชับ และระดมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.ในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียงออกให้ความรู้เกี่ยวกับโรคซิกาให้ประชาชนในพื้นที่ได้ทราบ เพื่อรู้แนวทางป้องกันโรค นอกจากนี้ ยังได้ออกตรวจสอบหญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็กในพื้นที่ ซึ่งพบว่าในพื้นที่ อ.นามน มีหญิงตั้งครรภ์อยู่ทั้งหมด 32 คน และในหมู่บ้านโนนสามัคคี มีอยู่ 5 คน
ซึ่งทั้งหมดไม่มีการติดเชื้อไวรัสซิกา และขณะนี้ก็ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังและเร่งกำจัดยุงลาย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบความรู้เกี่ยวกับโรค และวิธีการป้องกันแล้ว
สำหรับโรคที่ติดเชื้อไวรัสซิกานั้น มียุงลายเป็นพาหะนำโรค เหมือนกับไข้เลือดออก แต่ความร้ายแรงจะไม่เท่ากับไข้เลือดออก เพราะเชื้อจะอายุของโรคประมาณ 7 วัน เชื้อก็จะหายไปเอง แต่ผู้ที่ติดเชื้อ โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์จะเสี่ยงทำให้เด็กที่อยู่ในครรภ์เกิดมาหัวลีบ ทั้งนี้ จากการข้อมูลพบว่า เปอร์เซ็นต์ที่จะก่อให้เกิดได้มี 10 คน ของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ 100 คน
ดังนั้น หากประชาชน หรือพบบุคคลใกล้ชิดมีไข้ มีผื่น ตาแดง และปวดตามข้อ ให้รีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อรักษา และป้องกันตนเองให้ปลอดภัย ห่างไกลโรคซิกา
ส่วนการป้องกันนั้นตนเองจะสามารถป้องกันตนเองดีที่สุด โดยประชาชนต้องยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือ เก็บบ้านทำความสะอาด เก็บภาชนะปิดฝาให้มิดชิด ป้องกันการวางไข่ของยุงลาย และเก็บรักษาความสะอาดสภาพแวดล้อม
นอกจากนี้ ประชาชนควรที่จะต้องป้องกันตนเองไม่ให้ยุงกัด โดยการนอนกางมุ้ง ฉีดพ่นยากำจัดยุงลายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะสามารถป้องกันโรคไข้ติดเชื้อซิกา ไข้เลือดออก และไข้ปวดตามข้อได้
