กรมควบคุมโรค เตือนเชียร์บอลช่วงดึกกินขนม / น้ำอัดลม เสียสุขภาพและเสี่ยงโรค พร้อมหนุนคนรุ่นใหม่เชียร์บอลไร้แอลกอฮอล์
วันนี้ (16 มิ.ย.) นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นเทศกาลแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ซึ่งเวลาการแข่งขันมักจะตรงกับช่วงเวลากลางคืนของไทย ทำให้ผู้ติดตามชมการถ่ายทอดสดต้องนอนดึก หรือตื่นขึ้นมาชมกลางดึก อาจทำให้หิวและเกิดพฤติกรรมการกินจุบจิบในช่วงการเชียร์ฟุตบอลได้ และอาหารที่มักจะถูกเลือกมาเป็นอันดับต้น ๆ จะเป็น ขนมกรุบกรอบ น้ำอัดลม เหล้า เบียร์ ซึ่งอาหารเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการไม่ครบถ้วน หากกินมากจะเกิดโทษทำให้น้ำหนักเพิ่มหรือเป็นโรคอ้วนได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
นพ.อำนวย กล่าวต่อว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้หิวบ่อยนั้น เนื่องมาจากอิทธิพลของฮอร์โมนเกรลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร และฮอร์โมนเกรลินจะหลั่งสูงสุดเวลาประมาณ 2 นาฬิกา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการแข่งขัน จึงทำให้แฟนบอลมีอาการหิวและต้องหาอาหารรวมถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ มากิน นอกจากนี้ การเปลี่ยนเวลานอน การอดหลับอดนอน และภาวะเครียดจากการลุ้นผลฟุตบอล ก็มีผลกระตุ้นให้มีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยคอร์ติซอลนี้มีบทบาทที่สำคัญต่อระบบการควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด และถ้ามีระดับของฮอร์โมนตัวนี้สูงเกินไป จะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มความต้องการกินอาหารที่ให้พลังงานสูง แล้วเก็บสะสมพลังงานนั้นไว้ชดเชยพลังงานที่สูญเสียไปกับความเครียด และระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เพิ่มขึ้นในกระแสเลือดนั้นจะไปกระทบกับระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ส่งผลให้เกิดโรคตามมา เช่น โรคกระเพาะอาหาร โรคหัวใจขาดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง เป็นต้น
สำหรับผู้มีโรคประจำตัว การนอนพักผ่อนไม่เป็นเวลา หรือพักผ่อนน้อย จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย อาจทำให้อาการกำเริบ หรือทรุดลงกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกเหนือจากเรื่องของการพักผ่อน ยังต้องควบคุมพฤติกรรมการกินอาหารในช่วงระหว่างการชมฟุตบอลด้วย เพราะหากระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะเป็นอันตรายได้ และต้องระมัดระวังอย่าให้เครียดจนเกินไป เนื่องจากความเครียดก็ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคขอแนะนำวิธีการปฏิบัติตนในช่วงดูฟุตบอลยูโร เพื่อสุขภาพที่ดีของแฟนบอลทุกท่าน ดังนี้ 1. เตรียมความพร้อมของร่างกาย ด้วยการกินอาหารครบห้าหมู่ ครบสามมื้อ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอ 2. บริหารกายระหว่างที่ดูบอลด้วยท่าง่าย ๆ ให้ร่างกายคลายความเมื่อยล้า 3. ในวันทำงานควรพักนอนหลับในช่วงเวลาพักกลางวัน 15 - 30 นาที 4. หากโปรแกรมการแข่งขันมารอบดึกหรือข้ามวัน ควรรีบนอนตั้งแต่หัวค่ำแล้วค่อยตื่นมาดูการแข่งขัน 5. ลองเปลี่ยนจากการกินขนมกรุบกรอบ เช่น มันฝรั่งทอด ป๊อปคอร์น รวมถึงขนมหวาน เช่น ช็อกโกแลต เค้ก มาเป็นผลไม้ที่มีรสไม่หวาน เช่น ฝรั่ง แอปเปิล ชมพู่ พุทรา 6. ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลม และแอลกอฮอล์
อย่างไรก็ตาม ผู้ชมและเชียร์ฟุตบอลในครั้งนี้ ขอให้เชียร์อย่างสนุกสนานและมีความสุข ปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ หากดื่มแล้วมีการโพสต์ภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงในโซเชียลมีเดียในเชิงเชิญชวนให้ผู้อื่นดื่ม อวดอ้างสรรพคุณ หรือเพื่อประโยชน์ทางการค้าด้วยแล้วนั้น จะเข้าข่ายขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 32 ที่บัญญัติไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งมีความผิดโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โทร. 02 590 3342 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (16 มิ.ย.) นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นเทศกาลแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ซึ่งเวลาการแข่งขันมักจะตรงกับช่วงเวลากลางคืนของไทย ทำให้ผู้ติดตามชมการถ่ายทอดสดต้องนอนดึก หรือตื่นขึ้นมาชมกลางดึก อาจทำให้หิวและเกิดพฤติกรรมการกินจุบจิบในช่วงการเชียร์ฟุตบอลได้ และอาหารที่มักจะถูกเลือกมาเป็นอันดับต้น ๆ จะเป็น ขนมกรุบกรอบ น้ำอัดลม เหล้า เบียร์ ซึ่งอาหารเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการไม่ครบถ้วน หากกินมากจะเกิดโทษทำให้น้ำหนักเพิ่มหรือเป็นโรคอ้วนได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
นพ.อำนวย กล่าวต่อว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้หิวบ่อยนั้น เนื่องมาจากอิทธิพลของฮอร์โมนเกรลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร และฮอร์โมนเกรลินจะหลั่งสูงสุดเวลาประมาณ 2 นาฬิกา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการแข่งขัน จึงทำให้แฟนบอลมีอาการหิวและต้องหาอาหารรวมถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ มากิน นอกจากนี้ การเปลี่ยนเวลานอน การอดหลับอดนอน และภาวะเครียดจากการลุ้นผลฟุตบอล ก็มีผลกระตุ้นให้มีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยคอร์ติซอลนี้มีบทบาทที่สำคัญต่อระบบการควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด และถ้ามีระดับของฮอร์โมนตัวนี้สูงเกินไป จะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มความต้องการกินอาหารที่ให้พลังงานสูง แล้วเก็บสะสมพลังงานนั้นไว้ชดเชยพลังงานที่สูญเสียไปกับความเครียด และระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เพิ่มขึ้นในกระแสเลือดนั้นจะไปกระทบกับระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ส่งผลให้เกิดโรคตามมา เช่น โรคกระเพาะอาหาร โรคหัวใจขาดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง เป็นต้น
สำหรับผู้มีโรคประจำตัว การนอนพักผ่อนไม่เป็นเวลา หรือพักผ่อนน้อย จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย อาจทำให้อาการกำเริบ หรือทรุดลงกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกเหนือจากเรื่องของการพักผ่อน ยังต้องควบคุมพฤติกรรมการกินอาหารในช่วงระหว่างการชมฟุตบอลด้วย เพราะหากระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะเป็นอันตรายได้ และต้องระมัดระวังอย่าให้เครียดจนเกินไป เนื่องจากความเครียดก็ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคขอแนะนำวิธีการปฏิบัติตนในช่วงดูฟุตบอลยูโร เพื่อสุขภาพที่ดีของแฟนบอลทุกท่าน ดังนี้ 1. เตรียมความพร้อมของร่างกาย ด้วยการกินอาหารครบห้าหมู่ ครบสามมื้อ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอ 2. บริหารกายระหว่างที่ดูบอลด้วยท่าง่าย ๆ ให้ร่างกายคลายความเมื่อยล้า 3. ในวันทำงานควรพักนอนหลับในช่วงเวลาพักกลางวัน 15 - 30 นาที 4. หากโปรแกรมการแข่งขันมารอบดึกหรือข้ามวัน ควรรีบนอนตั้งแต่หัวค่ำแล้วค่อยตื่นมาดูการแข่งขัน 5. ลองเปลี่ยนจากการกินขนมกรุบกรอบ เช่น มันฝรั่งทอด ป๊อปคอร์น รวมถึงขนมหวาน เช่น ช็อกโกแลต เค้ก มาเป็นผลไม้ที่มีรสไม่หวาน เช่น ฝรั่ง แอปเปิล ชมพู่ พุทรา 6. ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลม และแอลกอฮอล์
อย่างไรก็ตาม ผู้ชมและเชียร์ฟุตบอลในครั้งนี้ ขอให้เชียร์อย่างสนุกสนานและมีความสุข ปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ หากดื่มแล้วมีการโพสต์ภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงในโซเชียลมีเดียในเชิงเชิญชวนให้ผู้อื่นดื่ม อวดอ้างสรรพคุณ หรือเพื่อประโยชน์ทางการค้าด้วยแล้วนั้น จะเข้าข่ายขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 32 ที่บัญญัติไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งมีความผิดโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โทร. 02 590 3342 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่