MGR Online - เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ร้องกระทรวงยุติธรรมกำหนดพื้นที่ร้านเหล้ารอบสถานศึกษาช่วงบอลยุโร 2016 เผยโปรโมชันตามร้านดึงเพิ่มยอดนักดื่ม ขณะที่รองอธิบดีคุมพินิจฯ รับลูกส่ง จนท.เข้มกวดขัน ทั้งเด็กเแว้นและสถานบริการ
วันนี้ (3 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. กระทรวงยุติธรรม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ พร้อมด้วยกลุ่มนักเรียน นักศึกษา กว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อทวงถามความคืบหน้ามาตรการจัดโซนนิ่งร้านจำหน่ายแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา และเรียกร้องเพื่อกำหนดมาตรการร้านที่อาจฝ่าฝืนกฎหมายช่วงศึกฟุตบอลยูโร 2016 ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ โดยมีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นตัวแทนรับมอบ
นายธีรภัทร์กล่าวว่า เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ พล.อ.ไพบุลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แก้ไขปัญหาสถานบันเทิงรอบสถานศึกษา อีกทั้งยังเป็นหน่วยงานหลักที่แก้ไขปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เครือข่ายเยาวชนฯ จึงต้องการสอบถามความคืบหน้าการกำหนดพื้นที่สถานบันเทิงรอบสถานศึกษา โดยมีนโยบายให้แต่ละจังหวัดและสถานศึกษาร่วมกันกำหนดระยะห่าง
“แต่จนถึงทุกวันนี้การกำหนดระยะห่างดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุป และไม่มีความคืบหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. ขณะเดียวกัน การแข่งขันฟุตบอลยูโรที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 10 มิ.ย. สถานบันเทิงต่างๆ มักจะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันเพื่อดึงดูดลูกค้า มีการฉวยโอกาสทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 จำนวนมาก ทั้งการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฏหมายกำหนด ขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี การจัดโปรโมชันจูงใจให้ดื่ม” นายธีรภัทร์กล่าว
นายธีรภัทร์กล่าวอีกว่า จากงานวิจัยเรื่อง “กลยุทธ์ร้านเหล้ารอบรั้วมหาวิทยาลัยในการกระตุ้นอุปสงค์ของนักศึกษา” ปี 2558 ยืนยันว่ากลุ่มที่เข้าสถานบันเทิงให้มหาวิทยาลัยจะมีพฤติกรรมการดื่มสูงถึง 94.2 เปอร์เซ็นต์ และส่งผลให้เกิดการกลับไปใช้บริการซ้ำอีก แต่หากไม่มีร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัย นักศึกษาจะเข้าใช้บริการลดลงเกือบครึ่ง หรือ 41.6 เปอร์เซ็นต์ จากข้อห่วงใยดังกล่าวจึงขอแสดงจุดยืนและเสนอแนวทางเพื่อให้กระทรวงยุติธรรมนำไปพิจารณา ดังนี้ 1. ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำงานอย่างเองจริงเอาจังเพื่อแก้ไขปัญหาสถานบันเทิงรอบสถานศึกษา ตลอดจนปัญหาอบายมุขต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง 2. ขอให้เร่งประกาศกำหนดพื้นที่โซนนิ่งในการควบคุมการขายสุรารอสถานศึกษาอย่างชัดเจนในทุกจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร โดยอาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 เพื่อจัดการกับสถานบันเทิงที่ทำผิดกฎหมายในรัศมีที่กำหนดด้วยการสั่งปิดถาวรหรือสั่งปิด 5 ปี สำหรับร้านที่อยู่นอกรัศมีดังกล่าว
นายธีรภัทร์กล่าวเพิ่มว่า 3. ขอให้กระทรวงยุติธรรมมีมาตรการเข้มข้นมากขึ้นเพื่อรับมือการกระทำผิดกฎหมายของสถานบันเทิง ใกล้สถานศึกษาที่มักจะฉวยโอกาสทำผิดกฎหมาย ขายเกินเวลา ขายเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีตลอดจนการจัดโปรโมชันจูงใจนักเรียน นิสิตนักศึกษาในช่วงฟุตบอลยูโร 2016 รวมไปถึงการเร่งประชาสัมพันธ์ ช่องทางทางการรับแจ้งเบาะแสสถานบันเทิงที่ที่กระทำผิดกฎหมายด้วย
ด้านนายสหการณ์กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ที่ทำให้เห็นว่าปัญหาเรื่องแอลกอฮอล์ และสถานบริการ จะสำเร็จได้นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงภาครัฐอย่างเดียวแต่ภาคประชาชนต้องร่วมมือร่วมใจให้ความสำคัญ ส่งผลให้การบังคับใช้กฎหมายมีความเข้มแข็งมากขึ้น ส่วน 3 ประเด็นที่เครือข่ายฯ นำเสนอมานั้น 1. การแก้ปัญหาร้านเหล้ารอบสถานศึกษาและอบายมุขต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าติดตามเนื่องจากมีคณะกรรมการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. 22/2558 ยกระดับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งเด็กแว้น และสถานบริการ พร้อมร่วมมือกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง
“2. การประกาศกำหนดพื้นที่ควบคุมการขายสุรารอบสถานศึกษาทุกจังหวัด ตามมติ ครม. ได้มีการกำหนดแบ่งพื้นที่อย่างชัดเจน โดยมอบหมาย กรมสรรพสามิต กำหนดขอบเขตโซนนิ่งรอบสถานศึกษาและดำเนินการให้เสร็จสิ้นครบทุกพื้นที่ ซึ่งคาดว่าแล้วเสร็จทั้งหมดภายในวันที่ 22 ก.ค.นี้ หากมีการละเมิดจะสั่งปิดถาวร และ 3. เพิ่มความเข้มงวดช่วงศึกฟุตบอลยูโร 2016 เพราะอาจมีการฉวยโอกาสกระทำผิดกฎหมายเพื่อดึงดูดนักดื่มนั้นคาดว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะเจ้าหน้าที่ดำเนินการลักษณะคล้ายข้อแรกและไม่น่ามีอุปสรรคในการทำงาน” นายสหการณ์กล่าว