บี้ปฏิรูป “ประกันสังคม” ไร้ระบบตรวจสอบ รพ.เดชา ก่อนทำสัญญา จวกย้าย รพ.ผู้ประกันตน แต่ให้สำรองจ่ายเอง

กลุ่มผู้ประกันตน ชี้ ปิด รพ.เดชา สะท้อน “ประกันสังคม” บริหารจัดการแย่ ไร้ระบบตรวจสอบมาตรฐาน รพ. ก่อนทำสัญญา ค้านผู้ประกันตน 4 หมื่นคน ต้องสำรองจ่าย ย้ำ ไม่ใช่คนทำผิด ควรมีสิทธิเลือก รพ. ใหม่ เอง เป็นกรณีพิเศษ จี้ปฏิรูป สปส. 3 เรื่อง

จากกรณีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) สั่งปิดโรงพยาบาลเดชา ชั่วคราวเป็นเวลา 60 วัน หลังตรวจสอบพบว่าไม่สามารถให้บริการสาธารรสุขได้อย่างมีมาตรฐานโรงพยาบาลขนาด 100 เตียง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้เยียวยาผู้ประกันตนจำนวนกว่า 40,000 คน ไปยัง 3 โรงพยาบาล คือ รพ.ตำรวจ รพ.ราชวิถี และ รพ.เลิดสิน ซึ่งจะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 16 พ.ค. นี้

วันนี้ (14 พ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) น.ส.สุภัทรา นาคะผิว อนุกรรมการด้านบริการสุขภาพ ภายใต้คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน (คอบช.) กล่าวว่า เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงการไม่มีประสิทธิภาพการบริหารจัดการของ สปส. เพราะปกติจะต้องมีระบบตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานก่อนจะทำสัญญากับโรงพยาบาล ว่า มีความพร้อมในการดูแลผู้ประกันตนหรือไม่ ทั้งที่ รพ.เดชา มีสัญญาณบอกเหตุว่ามีปัญหามาตั้งแต่ ธ.ค. 2558 นอกจากนี้ การแก้ปัญหาถ่ายโอนผู้ประกันตน 40,000 คน ไปยังโรงพยาบาลอื่น ๆ แต่ให้สำรองจ่ายไปก่อนนั้น ส่วนนี้ตนขอคัดค้าน เพราะบางคนไม่มีเงินสำรองจ่าย ดังนั้น จะได้รับการรักษาอย่างไร ดังนั้น สปส. ต้องรับผิดชอบ และขอเชิญชวนผู้ประกันตน 40,000 คน และลูกจ้างของโรงพยาบาล รวมถึงผู้ประกันตนทั่วประเทศหากมีปัญหาขอให้ร้องเรียนมาที่เพจของชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน หรือ มพบ. เพื่อรวบรวมข้อมูลความเดือดร้อนไปสู่การได้รับการดูแล

นางสุภาภร ถิ่นวัฒนา คณะกรรมการ คอบช. กล่าวว่า วันนี้ผู้ประกันตนกำลังถูกละเมิดสิทธิผู้บริโภค ดังนั้น ในฐานะคณะกรรมการองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค จึงเสนอ สปส. มีการปฏิรูป 3 เรื่อง คือ 1. ขอให้ผู้ประกันตนมีสิทธิในการเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ 4 ครั้งต่อปี 2. ปฏิรูประบบรับเรื่องร้องเรียน โดยเฉพาะคอลเซ็นเตอร์ของ สปส. ให้มีความรู้ เพราะปัจจุบันไม่สามารถตอบคำถามของผู้ประกันตนได้ 3. ปฏิรูปสิทธิในการได้รับการดูแลสุขภาพสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกันตนมากกว่านี้ เชื่อว่า ยังมีอีกหลาย ๆ โรงพยาบาลเริ่มมีปัญหาเช่นเดียวกับโรงพยาบาลเดชา

นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์กรลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรงพยาบาลเดชามีสัญญาณบอกเหตุมาตั้งแต่ ธ.ค. 2558 แต่ สปส. กลับไม่มีการตรวจสอบก่อนทำสัญญา ซึ่งตามระบบของ สปส. จะมีการจ่ายเงินเหมาะจ่ายให้กับโรงพยาบาลทันที 1,650 บาทต่อหัว เท่ากับว่า ต้องจ่ายให้กับโรงพยาบาลเดชาถึง 66 ล้านบาท หากเป็นโรคเรื้อรังต้องจ่ายเพิ่มอีก 480 บาทต่อหัวประชากร ทั้งนี้ โรงพยาบาลเดชาที่ปิดตัวก็เป็นสัญญาณบอกเหตุ ผู้ประกันตนทั้งหมดต้องตื่นตัว และอยากบอก 40,000 คน ไม่ต้องวอกแวก ว่า สปส. จัดให้ไปโรงพยาบาลใด แต่สามารถเลือกได้เองเลย ให้เป็นกรณีพิเศษ ไม่ต้องรอเปลี่ยนสถานพยาบาลตามรอบปี เพราะนี่ไม่ใช่ความผิดของผู้ประกันตน ดังนั้น จากนี้จะมีการหารือกับเครือข่ายเพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีให้มีการปฏิรูป สปส. ต่อไป