xs
xsm
sm
md
lg

“หมอชลธิศ” ห่วง “ดร.เซปิง” กร้าวทำเฟซออฟต่อ หวั่นสังคมเข้าใจผิด จี้แก้ กม.ปิดช่องโหว่โฆษณา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ (ซ้าย) ดร.เซปิง ไชยศาส์น (ขวา)
“หมอชลธิศ” ห่วง “ดร.เซปิง” ยืนกรานทำโครงการ “เฟซออฟ” ไม่ผิด เดินหน้าทำต่อ หวั่นทำสังคมเข้าใจผิด ชี้ เป็นช่องโหว่วงการศัลยกรรม วอน สคบ. สธ. แพทยสภา ออกระเบียบให้ครอบคลุม พร้อมมอบทีมกฎหมายตรวจสอบถูกพาดพิงงานแถลงข่าว

วันนี้ (24 ก.พ.) นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณี ดร.เซปิง ไชยศาส์น ที่ปรึกษาด้านความงาม แถลงข่าวกรณีการทำโครงการเฟซออฟ ซึ่งมีการพาดพิงถึงตน ว่า ขณะนี้กำลังให้ทีมกฎหมายทำการตรวจสอบว่าพาดพิงเรื่องใดบ้าง แต่หากพิจารณาแล้วไม่มีอะไรมากตนก็ไม่ติดใจ แต่หากเป็นเรื่องที่สร้างความเสื่อมเสีย ก็อาจต้องมีการแก้ไขต่อไป ส่วนกรณี ดร.เซปิง ระบุว่า จะร้องเรียนตนต่อแพทยสภา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะตลอดชีวิตการทำงานไม่เคยทำอะไรผิดหรือทำอะไรนอกกรอบ นอกจากนี้ ตนยังมีการเขียนตำราทางการแพทย์และเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์อีกด้วยจึงยินดีให้ยื่นเรื่องถึงแพทยสภา เพราะประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฟ้องหรือร้องเรียนแพทย์ในแพทยสภาทุกคน

นพ.ชลธิศ กล่าวว่า สิ่งที่กังวลคือการที่ ดร.เซปิง ยังระบุว่า การทำเฟซออฟไม่ผิด และจะเดินหน้าโครงการดังกล่าวต่อนั้น ถือว่าเป็นช่องโหว่ของวงการศัลยกรรม และถือว่าเป็นการทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด เพราะเรื่องนี้ถือเป็นการโฆษณาที่สร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชน ที่สำคัญ ยังมีประเด็นที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ตนมองว่าสำคัญมาก คือ ดร.เซปิง บอกว่า เป็นที่ปรึกษาความงาม รวมไปถึงที่ปรึกษาการทำศัลยกรรมถือว่าอันตราย เพราะกลายเป็นว่ามีอาชีพหนึ่งเกิดขึ้นโดยไม่มีหน่วยงานใดดูแล ทั้งที่การปรึกษาความงามควรมีวิชาชีพที่น่าเชื่อถือ แต่ ดร.เซปิง ไม่ใช่แพทย์ด้วยซ้ำ แต่ประชาชนกลับเชื่อ หากเกิดอะไรขึ้นจะมีใครรับผิดชอบ ดังนั้น ในเรื่องนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และแพทยสภา ต้องมาร่วมกันหารือเพื่อออกระเบียบให้สอดคล้องกันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อทำการควบคุม เพราะระเบียบที่มีขณะนี้ยังไม่ครอบคลุมพอ ทั้งนี้ การที่แพทยสภามีการระบุว่าจะมีการแก้ไขกฎเกณฑ์มาตรฐานการทำศัลยกรรมถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะกฎหมายที่แพทยสภามีถือว่าเก่ามากแล้ว และต้องควบคุมดูแลให้ครอบคลุมไปถึงอาชีพที่ปรึกษาความงามหรือการทำศัลยกรรมนี้ด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นอาชีพอิสระเช่นนี้

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น