“ดร.เซปิง” แถลงทั้งน้ำตา โต้ข้อกล่าวหา Face Off เข้าข่ายหลอกลวง โฆษณาเกินจริง รับมีปัญหา “นพ. ชลธิศ” เชื่ออีกฝ่ายฟ้องร้องเพราะตนไม่แนะนำลูกค้าให้ เผย “สุรชัย” พร้อมโชว์ใบหน้าแต่เรื่องดันมาฉาว เดินหน้าสานต่อโครงการเฟซออฟ ยืนกรานเป็นคนไทย อ้างเป็นลูกสาว “ประจวบ ไชยสาส์น” สะกดนามสกุลไม่เหมือนกันเป็นความต้องการของพ่อ
จากกรณีที่ “นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์” นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.สมเด็จเจ้าพระยา ให้ดำเนินคดีกับ “ดร.เซปิง ไชยศาส์น” กูรูศัลยกรรมชื่อดัง ในข้อหาโครงการ “Face Off ผ่าแหลก ศัลยกรรม 10 อย่างบนหน้ากระชากความแก่จาก 60 ให้เหลือ 35 Dr.Xeping” กับ “สุรชัย สมบัติเจริญ” นักร้องลูกทุ่งรุ่นใหญ่เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค ต่อมายังทำเอามึน หลัง ตร. ออกมาเผยว่าไม่สามารถเรียกตัว ดร.เซปิง มาสอบสวนได้ เพราะไร้ตัวตน ไม่ปรากฏชื่อในทะเบียนราษฎร
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 กพ. ดร.เซปิง พร้อมทนายความ “นายจำนง ไชยมงคล” ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก ณ สมาคมธรรมศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยเจ้าตัวน้ำตานองหน้ายืนยันเป็นคนไทย ไม่ใช่คนต่างชาติ ไม่เคยพูดโฆษณา มีแต่พูดคุยกันเฉย ๆ และไม่มีการพูดถึงชื่อแพทย์แต่อย่างใด มีหลักฐานเพราะถ่ายวิดีโอไว้ ขอเวลาอีกสักพักแล้วจะได้เห็นว่าหน้าตาสุรชัยเป็นอย่างไร บอกตนไม่เคยเป็นหมอ เป็นแค่ที่ปรึกษาให้คำแนะนำ
“เนื่องจากที่ผ่านมาตัวเซปิงยังไม่ได้ออกมาให้ข้อเท็จจริงอะไรเลย เนื่องจากทีมทนายความของเราบอกว่ามันคือเรื่องจริง มันคือความจริง ฉะนั้นก็คงต้องไปคุยกันในกระบวนการยุติธรรมนะคะ แต่หลังจากที่ไม่ได้ออกมาพูดอะไรเลย ความเสียหายก็เริ่มเกิดกับตัวเซปิงมากขึ้นค่ะ ยกตัวอย่างเช่นถูกกล่าวหาว่าเป็นคนต่างแดน เป็นต่างด้าว ไม่ใช่คนไทย ไม่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎร์ ซึ่งจริงๆ แล้วเซปิงเป็นคนไทยนะคะ”
โต้ข้อกล่าวหา Face Off โฆษณาเกินจริง ให้รอดูใบหน้า “สุรชัย” ซัด “หมอชลธิศ” ถ้านักร้องดังกระชากวัยได้จริง จะว่าอย่างไร
“ส่วนทางฝ่ายคุณหมอชลธิศก็ได้ทำตัวเป็นพระเอกช่วยงานของสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย วันนี้เซปิงก็เลยขอโอกาสจะได้แถลงข้อเท็จจริง แล้วก็ถือเป็นการปกป้องชื่อเสียงของตนเอง มีประเด็นที่สำคัญดังต่อไปนี้นะคะ ประเด็นที่กล่าวหาว่าเซปิงโฆษณา เรื่องนี้ไม่เคยมีการโฆษณาเลย เป็นเพียงแค่การให้สัมภาษณ์พูดคุยในรายการที่เคยได้ไปออกสัมภาษณ์มา และการแถลงข่าวของโครงการ Face Off by Dr.Xeping ที่ผ่านมา ในการแถลงข่าวในครั้งนั้นตัวเซปิงเองไม่เคยพูดถึงชื่อคุณหมอที่จะทำศัลยกรรมให้กับคุณสุรชัยเลย และไม่เคยกล่าวถึงชื่อโรงพยาบาลที่ทำแต่อย่างใด นี่คือความสัตย์จริง และในวันนั้นเราก็มีการบันทึกเทปเอาไว้ทั้งหมดด้วยนะคะ”
“ตอนนี้เราคงต้องรอว่าการผ่าตัดของคุณสุรชัยจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ใช่มากล่าวหากันว่าทำไม่ได้จริง คุณสุรชัยเองก็ยังอยู่ในระหว่างการดูแลตัวเอง ก็คงต้องรอกันสักระยะหนึ่งอีกไม่นานนักค่ะ และหลังจากที่คุณสุรชัยออกมาแล้วเขากระชากวัยได้จริง เขาดูหนุ่มขึ้นจริง เขาดูดีขึ้นจริง หมอชลธิศจะว่าอย่างไรคะ”
ไม่เคยบอกว่าตนเป็นหมอ บอก Face Off หมายถึงสุรชัยเท่านั้น ที่อยากดูดี หนุ่มขึ้น
“ประเด็นที่ใช้ชื่อโครงการ Face Off กับคุณสุรชัยในครั้งนี้ เพราะคำว่า Face Off ในความหมายของเซปิงเองเป็นเสรีภาพทางความคิด ไม่มีสิ่งใดบอกว่าถูกหรือผิด Face Off ก็คือใบหน้าของคนๆ หนึ่งที่จะดูดีขึ้น ดูหนุ่มขึ้น เปลี่ยนจากความไม่มั่นใจเป็นบุคลิกภาพใหม่ที่มั่นใจ นั่นคือความสุขของคุณสุรชัยนั่นเอง นี่คือสิ่งที่ Face Off ของโครงการนี้ได้หมายถึงนั่นเองค่ะ”
“ส่วนวิธีการทำเซปิงไม่ได้เป็นหมอ ไม่ได้เคยพูดกับสื่อใดเลยว่าเป็นหมอ เคยมีสื่อออนไลน์สื่อหนึ่งได้ไปลงข่าวไว้ว่าเซปิงเป็นหมอ สื่อนั่นก็ได้ออกมากล่าวยืนยันแล้วว่าเซปิงไม่เคยได้พูด ข้อมูลนี้ผิดพลาดแน่นอนค่ะ เซปิงเป็นเพียงที่ปรึกษาด้านความงามที่คอยให้คำแนะนำให้กับผู้ที่ต้องการรับคำแนะนำ หนึ่งในนั้นก็คือคุณสุรชัยด้วยเช่นกันค่ะ คำจำกัดความว่า Face Off ก็ยังไม่มีความหมายที่ชัดเจนว่าหมายถึงอะไร หรือว่าหมอท่านอื่นๆ จะให้ความหมายอย่างไรก็ตามเซปิงก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรนะคะ ในส่วนของคำว่า Face Off ชัดเจนอยู่แล้วค่ะ นั่นก็หมายถึงคุณสุรชัยนั่นเอง ซึ่งต้องรอว่า Face Off ของคุณสุรชัยจะเป็นอย่างไรนะคะ คงรออีกไม่นานค่ะ”
ลั่นเคยแนะนำลูกค้าให้ “หมอชลธิศ” แต่ตอนหลังไม่ได้แนะนำอีก ปรึกษาทนายเข้าร้องเรียนแพทยสภา ร่ำไห้ยืนกรานเป็นคนไทย ถ้าไม่ใช่คนไทยจะเรียนจบปริญญาโท-ปริญญาเอกได้อย่างไร
“ประเด็นที่หมอชลธิศหรือใครก็แล้วแต่ที่ไปร้องที่ สคบ. ว่าตัวเซปิงทำผิดพรบ.สถานพยาบาล เซปิงไม่ได้เป็นหมอ ไม่ได้เป็นแพทย์ ไม่ได้มีสถานพยาบาลเป็นของตัวเอง เป็นเพียงแค่ที่ปรึกษาค่ะ ก็คงต้องไปถามหมอชลธิศว่าที่ผ่านมาหมอชลธิศให้ใครบ้างที่โฆษณาสถานพยาบาลของตนเอง เดิมทีเซปิงก็เป็นคนแนะนำลูกค้า หรือที่หมอชลธิศเรียกว่าคนไข้ไปให้หมอชลธิศเยอะพอสมควรเลยค่ะ เราเคยร่วมงานกันมานะคะ มีเรื่องมากมายที่เกิดขึ้นในคลินิกของคุณหมอชลธิศ”
“แต่เซปิงเองก็ตั้งใจมากที่จะทำงานทุกอย่างให้ออกมาดีค่ะ (เสียงสั่น) ไม่ว่าคุณหมอจะให้ทำอะไร เราก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุด แต่ก็ไม่คิดนะคะว่าในครั้งนี้มันจะเกิดเหตุการณ์ได้ถึงขนาดนี้เลย ในเมื่อโครงการ Face Off ขึ้นมา เราต้องการทำให้ประเทศไทย ทำให้ชื่อเสียงของหมอไทยเราโด่งดังไปทั่วโลกและเมืองไทยเป็นศุนย์กลางของเอเชียแปซิฟิก (สะอื้น) ที่ผ่านมาแนะนำลูกค้าให้คุณหมอชลธิศไปเยอะมากค่ะ แต่ก็มีหลายเหตุผลนะคะที่หลังจากนี้แล้วไม่ได้แนะนำให้เขาอีก”
“ถ้าพูดไปก็เกรงว่าเขาจะเสียหายค่ะ แต่ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์อย่างแน่นอนค่ะ และเร็วๆ นี้กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเข้าร้องเรียนต่อแพทย์สภาหรือไม่ ก็คงต้องให้เป็นทีมที่ปรึกษาด้านทนายดูแลต่อไปค่ะ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง”
“แต่สำหรับคุณสุรชัย เซปิงต้องแนะนำให้กับคุณหมอท่านอื่น ซึ่งไม่ใช่หมอชลธิศ ดังนั้นที่กล่าวหาว่าเซปิงไม่ใช่คนไทย ถ้าไม่ใช่คนไทยจะจบปริญญาตรี โทและเอกได้อย่างไรคะ และเมื่อใดก็ตามที่ได้รับหนังสือจากหน่วยงานใดๆ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับเลย ก็ยินดีจะไปให้ขอชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดค่ะ สำหรับประเด็นสุดท้ายคิดว่าจะทำโครงการ Fac Off by Dr.Xeping ต่อไปและจะทำให้ดีให้ได้ค่ะ”
งัดภาพถ่ายผลงานศัลยกรรมฝีมือหมอชลธิศมาแฉ บอกตนเป็นแค่คนให้คำปรึกษา
“วันนี้ก็มีรูปถ่ายผลงานของคุณหมอชลธิศมาให้ดูค่ะ เราก็ไม่ได้บอกว่าคุณหมอชลธิศมีฝีมือที่เก่งหรือไม่เก่ง เซปิงไม่ได้บอกนะคะ แต่ก็อยากจะให้เห็นว่าถ้าเป็นฝีมือของคุณหมอท่านอื่นแล้วทำออกมาเป็นแบบนี้ (โชว์รูป) นี่ก็เป็นคนๆ หนึ่งค่ะที่ได้รับคำปรึกษา แล้วเซปิงก็ได้ทำให้เขามีความสุข นี่เป็นความสุขในด้านหน้าที่ที่ให้คำปรึกษากับทุกคนที่ต้องการมีความสุขและดูดีค่ะ”
“ทุกคนที่เข้ามารับการปรึกษากับเซปิงต้องการให้ตัวเองดูเด็กลง ดูหน้าตึง คำว่าเด็กลงคือหน้าต้องตึงจริง สิ่งๆ นั้นก็คือภาพที่ได้เห็นไปนะคะ เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นก่อนและหลังนะคะ ตอนที่มีคุณสุรชัยมาปรึกษา เราก็จะแนะนำให้ดีที่สุดที่เขาอยากดูหนุ่ม ดังนั้นก็ต้องดูว่าเขานะทำอะไรบ้าง ก็ให้คำปรึกษาไป มาวิเคราะห์กันแล้วก็หลายจุดจริงๆ อย่างที่เคยพูดไปค่ะ ส่วนวิธีการทำอาจจะต้องรอให้คุณหมอออกมาตอบว่าคุณหมอทำอะไรให้คุณสุรชัยบ้างค่ะ”
ไม่ทราบถูกสคบ.สั่งห้ามไม่ให้ใช้ Faec Off
“เรื่องที่สคบ.บอกว่าจะไม่ให้ใช้คำว่า Faec Off ตรงนี้ยังไม่ทราบเลยนะคะว่าสคบ.สั่งห้ามไม่ให้ใช้ เพราะว่ายังไม่ได้รับหนังสือจากสคบ.เลยค่ะ ถ้ามีหนังสือมาก็จะไปค่ะ แต่ยังไม่ได้รับเชิญอะไรมาเลยนะคะ ทุกอย่างต้องอ่านผ่านสื่อทั้งนั้นเลยค่ะ”
เย้ยถ้าตนแนะนำ “สุรชัย” ให้ “หมอชลธิศ” จะเกิดเหตุการณ์นี้หรือไม่
“เวลามีคนมาปรึกษา เซปิงก็จะวิเคราะห์ถึงความสามารถฝีมือของคุณหมอเป็นอันดับแรก คุณหมอท่านใดก็แล้วแต่ที่เราจะแนะนำที่คนเข้ามาปรึกษาต้องเหมาะสมกับแพทย์ท่านนั้น แพทย์ท่านนั้นจะต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง จบศัลยกรรมตกแต่งความงามมาจริงๆ และมีจริยธรรม คุณธรรม มีศีลธรรม รวมถึงเรื่องราคาความเหมาะสม นี่คือหลักเกณฑ์ในการเลือกคุณหมอไทยให้กับคนไทยของเราค่ะ ราคาก็จะวัดจากสิ่งที่ควรเป็นจริงไม่ใช่ตั้งราคาขึ้นมาเพราะว่าหมอท่านนี้อาจจะมีชื่อเสียงโด่งดังมากก็จะตั้งราคาขึ้นมาตามอำเภอใจ ทำให้คนที่อยากจะทำให้ตัวเองดูดีหมดโอกาสค่ะ”
“ขั้นตอนที่รับปรึกษาคือส่วนใหญ่จะโทร.เข้ามาค่ะ หรือบางคนแชตไลน์เข้ามา เขาก็ส่งรูปมาให้เราดูถึงปัญหาของใบหน้าท่านนั้นๆ เราก็จะอธิบายว่าปัญหามีอะไรบ้าง แล้วควรทำไหม ถ้าพร้อมจะทำ จะทำทั้งหมดหรือทำเป็นบางส่วนที่เราแนะนำไป ขึ้นอยู่กับความพอใจของเขาด้วยค่ะ มีการแนะนำให้ไปปรึกษาคุณหมอก่อนด้วยค่ะ อย่างที่ผ่านมาก็จะแนะนำให้ไปที่คลินิกของคุณหมอชลธิศเป็นต้นค่ะ แต่เซปิงได้ค่าปรึกษาด้วยหรือเปล่า ไปถามคุณหมอชลธิศดูค่ะว่าได้หรือเปล่า (ยิ้ม)”
“ถามว่าทำงานร่วมกันมากี่ปี คือทนทุกข์ทรมานใจอยู่น่าจะมี 1 ปีนะคะ สาเหตุมาจากโครงการนี้หรือเปล่า ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะ แต่คิดว่าน่าจะมาจากเซปิงไม่ได้แนะนำลูกค้าให้ต่อไป ถ้าเหตุการณ์ในครั้งนี้เซปิงแนะนำคุณสุรชัยให้หมอชลธิศ ไม่รู้ว่าจะเป็นเหตุการณ์แบบนี้หรือเปล่านะคะ ก่อนที่คุณหมอชลธิศจะออกมาแถลงข่าว เซปิงก็ไม่ทราบมาก่อน ตกใจมากค่ะที่เห็นข่าว”
“สถานพยาบาลไม่ได้ทราบชัดเจนว่าทำโครงการแบบนี้ สถานพยาบาลจะทราบแต่เพียงว่าคุณสุรชัยเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลนั้น คนไข้หนึ่งที่ต้องการทำให้ตัวเองดูดีขึ้น ดูหนุ่มขึ้นเท่านั้นค่ะ ตัวเซปิงเองก็รู้จักกับสถานพยาบาลที่คุณสุรชัยไปทำนี้ เพราะว่าตนเอง ญาติๆ และเพื่อนๆ ได้เคยเข้าไปทำศัลยกรรมที่นั่นค่ะ (ส่วนตัวรู้จักดร.กมลไหม?) ไม่รู้จักค่ะ”
อีกไม่นานเกินรอ พร้อมพิสูจน์ “สุรชัย” กระชากวัยเหลือ 35 ได้จริงหรือไม่
“ถามว่าคุณสุรชัยจะมีใบหน้าที่เหมือนคนวัย 35 ได้จริงหรือเปล่า อันนี้ต้องรอดูคุณสุรชัยนะคะ ว่าจะกระชากวัยและดูดีขึ้นจริงหรือเปล่าค่ะ อีกไม่นานค่ะ จริงๆ ตอนนี้ก็พร้อมแล้วนะคะ เพียงแต่ว่าเกิดกระแสข่าวลบจากตัวเซปิงเยอะมากๆ ค่ะ เราก็เลยแค่รอเวลาให้คุณสุรชัยออกมา อีกไม่กี่วันค่ะ”
"ถามว่าเป็นการเปลี่ยนใบหน้าเลยหรือแค่ดูดีขึ้น คือเมื่อเราจะเอาหน้าเก่าของเราออกไป แล้วเอาหน้าใหม่ที่ดีกว่าเดิมที่เคยมีกลับคืนมา สิ่งๆ นี้ก็คือคำว่า Face Off นั่นเอง คุณสุรชัยก็จะดูดีขึ้นตามแบบฉบับที่เขาต้องการค่ะ”
ไม่ทราบรายละเอียดหญิงโร่ร้องสคบ. ระบุตนเข้าข่ายหลอกลวง บอกเดี๋ยวความจริงจะถูกเปิดโปง
“ที่ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาร้องกับสคบ.ว่าโอนเงินให้เซปิงมาก่อนนั้น เรื่องนี้เดี๋ยวความจริงจะเปิดเผยมาแน่นอนค่ะยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเขาแจ้งร้องเรียนไว้อย่างไรบ้าง แต่ไม่เป็นความจริงอย่างที่เขาพูดแน่นอนค่ะ”
ยอมรับเป็นลูกสาว “ประจวบ ไชยสาส์น” ส่วนนามสกุลเขียนไม่ตรงกันเป็นความต้องการของบิดา
“ชื่อเซปิงเป็นชื่อตามบัตรประชาชนค่ะ (เป็นอะไรกับ ประจวบ ไชยสาส์น?) เป็นลูกค่ะ ส่วนกรณีที่มีข้อมูลในอินเตอร์เน็ตว่าประวัติเรามีชื่อเดิมว่าสุดารัตน์ ไชยสาส์น เราไม่เคยโพสต์ มีสื่อๆ หนึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เราทราบแล้วว่าเป็นสื่อใดที่คงจะต้องดำเนินการกับเขาในด้านกฎหมายที่ได้ทำให้เซปิงเสียหายมากๆ ในครั้งนี้ ที่ได้เอาข้อมูลที่ผิดมากๆ ไปลงว่าชื่อเดิมคือสุดารัตน์ ซึ่งไม่เคยออกจากปากเซปิงเลยค่ะ”
“เรื่องที่ว่านามสกุลสะกดไม่ตรงกัน อันนี้เป็นสิ่งที่คุณพ่อต้องการให้เขียนแบบนี้ค่ะ เป็นเหตุผลของครอบครัวค่ะ เซปิง ไชยศาส์นค่ะ ส่วนที่ขึ้นตามสื่อหรือที่ต่างๆ ว่าไชยสาส์น อาจจะเป็นทีมงานที่ทำนะคะ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ออกมาให้ข้อมูลแล้วนี่คะ สามารถสอบถามได้ค่ะ แต่จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรให้ความสับสนกับสื่อแบบนี้นะคะ ซึ่งเซปิงเสียใจมาก อยู่ที่ว่าจะติดใจหรือเปล่าในเรื่องนี้”
ด้าน “นายจำนงค์ ไชยมงคล” ทนายความได้เผยเพิ่มเติมว่ายังไม่ได้รับเอกสารใดๆ ทั้งสิ้นจากสคบ. ชี้ Face Off ในความหมายของดร.เซปิง หมายถึงสุรชัยเท่านั้น
"ประเด็นที่ว่าเราจะร้องไปทางแพทยสภา เรากำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ครับ วันนี้ที่เรามาชี้แจงก็คือเรายังไม่ได้รับเอกสารใดๆ จากสคบ. แม้กระทั่งการแจ้งความก็ยังไม่ได้รับ ที่ทราบทั้งหมดก็มาจากสื่อ สิ่งที่เราจะต้องชี้แจงต่อไปก็คือ Face Off ในความหมายของแต่ละคนก็มีหลายอย่าง บางคนก็เอามาตั้งชื่อหนัง แต่ Face Off ของดร.เซปิงคือตัวคุณสุรชัย นี่คือคำชี้แจงที่ชัดเจนครับ”
“ฉะนั้นจะบอกว่าใครผิดใครถูกก็จะยืนยันว่าไม่ได้แปลความหมายในทางที่ผิดนะครับ คือหยิบยกประเด็นตรงคุณสุรชัย และสื่อสนใจคุณสุรชัย แต่หมอแต่ละท่านความหมายของเขาก็ต่างกันไป Face Off ของคุณเซปิงก็คือตัวคุณสุรชัย คือให้ดูดีขึ้น ดูหนุ่มขึ้น มีบุคลิกดีขึ้นในความหมายของดร.เซปิงที่ชี้แจงในความเป็นจริงครับ คนทำเป็นแพทย์ครับ แต่วิธีการทำคงต้องแล้วแต่แพทย์ครับ เพราะแพทย์แต่ละคนมีวิธีที่ต่างกัน”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม