xs
xsm
sm
md
lg

โรคลำไส้แปรปรวน โรคฮิตคนทำงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผศ.พญ.มณฑิรา มณีรัตนะพร
ภาควิชาอายุรศาสตร์

โรคลำไส้แปรปรวนไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่เชื่อว่าเป็นโรคที่สร้างความรำคาญ และส่งผลอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และบั่นทอนคุณภาพชีวิตแก่ผู้ที่เป็นโรคนี้ จะมาบอกถึงสาเหตุและวิธีการรักษาค่ะ

โรคลำไส้แปรปรวนเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารเอง หรือจากปัจจัยภายนอก เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ความผิดปกติของชนิดแบคทีเรียหรือปริมาณแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร และอาจเกิดจากการรับประทานอาหารบางชนิดในปริมาณมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดลำไส้แปรปรวนได้ นอกจากนั้นภาวะเครียดก็เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นทำให้เกิดอาการลำไส้แปรปรวนมากขึ้น

อาการของ โรคลำไส้แปรปรวน ที่สำคัญ คือ จะมีอาการปวด อืดหรือไม่สุขสบายในช่องท้อง โดยอาการปวดหรือไม่สุขสบายดังกล่าว จะเกิดขึ้นสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของความถี่ หรือลักษณะของอุจจาระ หรืออาการปวดและไม่สบายท้องนั้นดีขึ้นหลังการขับถ่ายอุจจาระ

โรคนี้อาจเกิดกับบางคนที่ไวต่ออาหารบางชนิด เช่น น้ำส้มสายชู กาแฟ ของเผ็ด มัน หรือผลไม้บางชนิด ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย เมื่ออาหารดังกล่าวตกถึงกระเพาะก็จะกระตุ้นให้เกิดกระแสประสาทวิ่งตรงไปลำไส้ใหญ่ อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องถ่ายท้องทันที โดยทั่วไป หากอาการไม่รุนแรง อาจไม่ต้องกังวลนัก เพราะไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงอะไร อาจมีความเสี่ยงบ้าง หากไปรับประทานอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการ ก็ไม่ทำให้เกิดผลแทรกซ้อนที่รุนแรงแต่อย่างใด อาจมีอาการเพียง ถ่าย 2-3 ครั้งก็จะหายไปเอง บางคนอาจมีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย หรือปวดท้อง ท้องอืดบ่อยก็สามารถบรรเทาด้วยการกินผักผลไม้ที่ไม่แพ้ให้มาก ๆ

การดูแลรักษาเบื้องต้น คือ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มันจัด เช่น หนังเป็ด หนังไก่ นม ครีม เนย น้ำนม ในปริมาณมาก ควรรับประทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลในปริมาณที่พอเหมาะ และผสมผสานหลาย ๆ หมู่อาหาร เลี่ยงการรับประทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งในปริมาณมาก ๆ จะช่วยลดอาการของโรค อาหารที่มีกากหรือเส้นใย (fiber) จะช่วยให้ลำไส้บีบตัวได้ดี นอกจากนี้กากหรือเส้นใยยังช่วยดูดน้ำไว้ในอุจจาระ ทำให้อุจจาระไม่แข็งและถ่ายได้ง่ายขึ้น แต่ควรกินทีละน้อยแต่กินให้บ่อยขึ้น ไม่ควรกินจนอิ่มมาก เพราะจะกระตุ้นให้มีอาการปวดท้องและท้องเสียได้ง่าย

นอกจากนี้ยังควรงดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด กาแฟ ของดอง น้ำอัดลมและยาบางชนิด ซึ่งจะทำให้มีอาการมากขึ้นด้วย ภาวะเครียดก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้มีการเกร็งตัวของลำไส้เพิ่มขึ้น จึงควรผ่อนคลายทำจิตใจให้สบาย พักผ่อนทั้งร่างกายให้เพียงพอ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคนี้อีกส่วนหนึ่ง

ในทางการแพทย์ มีการให้การรักษาโดยการใช้ยาที่ช่วยปรับการทำงานของทางเดินอาหารให้ดีขึ้น ซึ่งมักจะทำหากการปฏิบัติตัวดังกล่าวข้างต้นไม่เป็นผลสำเร็จ การรักษาที่ดีจะช่วยทำให้โรคสงบได้ แต่ยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ หากมีปัจจัยกระตุ้น ดังนั้นเมื่อเกิดอาการโรคลำไส้แปรปรวน ให้หมั่นสังเกตว่าอาการที่เกิดขึ้นสัมพันธ์กับชนิดของอาหารหรือไม่ หากมีความสัมพันธ์กัน แนะนำให้ลดหรือละอาหารดังกล่าว และรับประทานอาหารให้ตรงเวลา แต่หากไม่ดีขึ้นแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากอาการของลำไส้แปรปรวนอาจเป็นอาการเบื้องต้นที่พบได้ในโรคร้ายแรงหลายโรค เช่น ลำไส้อักเสบเรื้อรัง มะเร็งทางเดินอาหาร ซึ่งแพทย์จะพิจารณาสืบค้นเพิ่มเติม ตามข้อบ่งชี้ต่อไป
********

กิจกรรมดี ๆ ที่ศิริราช

จัดให้ความรู้ประชาชน ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดังนี้
# เรื่อง “ผมร่วง” 12 ก.พ. 59 เวลา 10.00-11.00 น. ณ ห้องประชุม 7008 ตึกสยามินทร์ ชั้น 7 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยพยาบาลด้านป้องกันโรคฯ โทร. 0 2419 7419

# เรื่อง "โรคเนื้องอกมดลูก" 24 ก.พ. 59 เวลา 12.00-16.00 น. ณ ศูนย์ฝึกอบรมการผ่าตัดสหสาขาผ่านกล้องไทย - เยอรมัน ฯ อาคารจุฑาธุช ชั้น 8 (รับจำนวนจำกัด) สำรองที่นั่งได้ที่ สาขาวิชาการใช้กล้องเพื่อส่องตรวจและรักษาทางนรีเวชวิทยาฯ โทร. 0 2419 4772 , 08 3542 3237

ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น