สธ. ชี้ ทุกภาคส่วนร่วมมือช่วยดักจับ ควบคุมโรคได้ไว ตั้งเป้ารักษาสถานะปลอดโปลิโอ ผู้ป่วยหัดไม่เกิน 1 ต่อล้าน โรคเรื้อนไม่เกิน 100 คน ในปี 2563 และ ปี 2567 ทุกอำเภอปลอดมาลาเรีย
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการ กรุงเทพฯ นพ.ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดการสัมมนาวิชาการป้องกันควบคุมโรคแห่งชาติ ประจำปี 2559 “ผนึกกำลัง เผชิญหน้าความท้าทาย สู่เป้าหมายลดโรคภัยอย่างยั่งยืน” พร้อมกล่าวว่า ปัจจุบันโรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อ และโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นความท้าทาย การทำงานให้มีประสิทธิภาพและเกิดสัมฤทธิ์ผลต้องอาศัยความมุ่งมั่น และความร่วมมือให้มีการพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรคให้มีความไว สามารถตรวจจับสถานการณ์ และตอบสนองให้เกิดการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างรวดเร็ว ส่วนโรคติดต่ออุบัติใหม่ก็ได้เตรียมการรับมือ ทำให้ประเทศไทยไม่มีการระบาดของโรครุนแรง เช่น โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางหรือโรคเมอร์ส การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในแถบทวีปแอฟริกา เป็นต้น
นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า กรมฯ ได้พัฒนาความร่วมมือกับเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ สร้างความเข้มแข็งของแผนงานควบคุมโรคพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรคให้มีความไว พัฒนาระบบการเตือนภัยล่วงหน้า เร่งรัดให้เกิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขทั้งในระดับส่วนกลางและระดับพื้นที่ ออกกฎหมายใหม่ เช่น พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เพื่อให้สามารถดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ และจัดการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิผล โดยตั้งเป้าหมายลดโรคและภัยสุขภาพ คือ 1. การรักษาสถานะปลอดโปลิโอตั้งแต่ปี 2540 2. ปี 2563 ผู้ป่วยหัดไม่เกิน 1 ต่อ ประชากรล้านคน 3. ปี 2563 ผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ไม่เกิน 100 ราย และ 4. ปี 2567 ทุกอำเภอของประเทศปลอดจากมาลาเรีย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่