น.พ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในการยุติปัญหาโรคมาลาเรียของประเทศไทยว่า กระทรวงสาธารณสุขยกระดับการจัดการโรคมาลาเรียของประเทศจากการควบคุมโรคเป็นการกำจัดโรค โดยจัดทำแผนยุทธศาสตร์กำจัดโรคมาลาเรียระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2560-2569) และแผนปฏิบัติการระยะ 5 ปี (พ.ศ.2560-2564) วงเงินงบประมาณ 2,280 ล้านบาท มียุทธศาสตร์ 4 ข้อ คือ 1.เร่งรัดกำจัดการแพร่เชื้อในประเทศไทย ไม่ให้มีผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่ เน้นระบบเฝ้าระวัง ค้นหารวดเร็ว รักษาเร็วและกำจัดเชื้อดื้อยา
2.พัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม มาตรการ และรูปแบบในการกำจัดโรคไข้มาลาเรียที่เหมาะสมกับพื้นที่
3.สร้างความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายระดับประเทศและนานาชาติ ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานต่อเนื่อง ยั่งยืน และ 4. ส่งเสริมให้ประชาชนมีศักยภาพในการดูแลตนเองจากโรคไข้มาลาเรีย ตั้งเป้าให้ทุกอำเภอของประเทศไทยไม่มีการแพร่เชื้อมาลาเรียในพื้นที่ติดต่อกันอย่างน้อย 3 ปี ภายในปี 2567 โดยผ่านความเห็นชอบในหลักการจากคณะกรรมการบริหารกำจัดมาลาเรียแห่งชาติ ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน เตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำจัดมาลาเรียแห่งชาติ ซึ่งมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนมีนาคม 2559
ด้าน น.พ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคมาลาเรียได้อย่างน่าพอใจ ผู้ป่วยลดน้อยลงเป็นลำดับ ข้อมูลตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 ถึง 7 มกราคม 2559 ผู้ป่วย 20,400 ราย ลดลงจากปี 2557 ร้อยละ 36 ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 13,663 ราย ต่างชาติ 8,951 ราย และผู้อพยพในศูนย์พักพิงชั่วคราว 1,414 ราย ปัญหาใหม่ที่ต้องเร่งจัดการคือกำจัดเชื้อดื้อยาอาร์ติมิซินินที่ใช้ในการรักษา ซึ่งพบในจังหวัดตามแนวชายแดน 6 จังหวัด ได้แก่ ตาก กาญจนบุรี ระยอง สุรินทร์ ศรีษะเกษ ตราด ทำให้การรักษายุ่งยากขึ้น ใช้เวลาในการรักษานานขึ้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาเพิ่มขึ้น 7-8 เท่าตัว อีกทั้งลักษณะการแพร่ระบาดของแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกัน จึงต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมกับพื้นที่ และเพิ่มการเข้าถึงของประชากรกลุ่มเสี่ยง เน้นหนักการค้นหาผู้ติดเชื้อให้พบโดยเร็ว และนำมารับการรักษาอย่างรวดเร็วเพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรค โดยมีอำเภอที่มีการแพร่เชื้อสูง 50 อำเภอ ที่มีการแพร่เชื้อต่ำ 198 อำเภอ อำเภอที่ไม่มีการแพร่เชื้ออย่างน้อย 1 ปี แต่ยังไม่ครบ 3 ปี 48 อำเภอ และอำเภอที่ไม่มีการแพร่เชื้ออย่างน้อย 3 ปี 632 อำเภอ
ทั้งนี้ เชื้อมาลาเรียในคนมี 5 ชนิดเชื้อที่พบพบในไทย ส่วนใหญ่เป็นชนิดฟัลซิปารัม ซึ่งมีความรุนแรงสูง และไวแวกซ์ บางรายอาจติดเชื้อมาลาเรียมากกว่า 1 ชนิดพร้อมกัน การแพร่กระจายของผู้ป่วยมาลาเรียจะพบมากบริเวณป่าเขาชายแดนของประเทศ โดยเฉพาะบริเวณชายแดน ไทย–พม่า ไทย-ลาว และไทย–กัมพูชา 5 จังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงคือ อุบลราชธานี ตาก ศรีสะเกษ ปราจีนบุรี กาญจนบุรี และยะลา คิดเป็นร้อยละ 50 ของผู้ป่วยที่พบทั้งประเทศ
2.พัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม มาตรการ และรูปแบบในการกำจัดโรคไข้มาลาเรียที่เหมาะสมกับพื้นที่
3.สร้างความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายระดับประเทศและนานาชาติ ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานต่อเนื่อง ยั่งยืน และ 4. ส่งเสริมให้ประชาชนมีศักยภาพในการดูแลตนเองจากโรคไข้มาลาเรีย ตั้งเป้าให้ทุกอำเภอของประเทศไทยไม่มีการแพร่เชื้อมาลาเรียในพื้นที่ติดต่อกันอย่างน้อย 3 ปี ภายในปี 2567 โดยผ่านความเห็นชอบในหลักการจากคณะกรรมการบริหารกำจัดมาลาเรียแห่งชาติ ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน เตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำจัดมาลาเรียแห่งชาติ ซึ่งมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนมีนาคม 2559
ด้าน น.พ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคมาลาเรียได้อย่างน่าพอใจ ผู้ป่วยลดน้อยลงเป็นลำดับ ข้อมูลตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 ถึง 7 มกราคม 2559 ผู้ป่วย 20,400 ราย ลดลงจากปี 2557 ร้อยละ 36 ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 13,663 ราย ต่างชาติ 8,951 ราย และผู้อพยพในศูนย์พักพิงชั่วคราว 1,414 ราย ปัญหาใหม่ที่ต้องเร่งจัดการคือกำจัดเชื้อดื้อยาอาร์ติมิซินินที่ใช้ในการรักษา ซึ่งพบในจังหวัดตามแนวชายแดน 6 จังหวัด ได้แก่ ตาก กาญจนบุรี ระยอง สุรินทร์ ศรีษะเกษ ตราด ทำให้การรักษายุ่งยากขึ้น ใช้เวลาในการรักษานานขึ้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาเพิ่มขึ้น 7-8 เท่าตัว อีกทั้งลักษณะการแพร่ระบาดของแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกัน จึงต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมกับพื้นที่ และเพิ่มการเข้าถึงของประชากรกลุ่มเสี่ยง เน้นหนักการค้นหาผู้ติดเชื้อให้พบโดยเร็ว และนำมารับการรักษาอย่างรวดเร็วเพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรค โดยมีอำเภอที่มีการแพร่เชื้อสูง 50 อำเภอ ที่มีการแพร่เชื้อต่ำ 198 อำเภอ อำเภอที่ไม่มีการแพร่เชื้ออย่างน้อย 1 ปี แต่ยังไม่ครบ 3 ปี 48 อำเภอ และอำเภอที่ไม่มีการแพร่เชื้ออย่างน้อย 3 ปี 632 อำเภอ
ทั้งนี้ เชื้อมาลาเรียในคนมี 5 ชนิดเชื้อที่พบพบในไทย ส่วนใหญ่เป็นชนิดฟัลซิปารัม ซึ่งมีความรุนแรงสูง และไวแวกซ์ บางรายอาจติดเชื้อมาลาเรียมากกว่า 1 ชนิดพร้อมกัน การแพร่กระจายของผู้ป่วยมาลาเรียจะพบมากบริเวณป่าเขาชายแดนของประเทศ โดยเฉพาะบริเวณชายแดน ไทย–พม่า ไทย-ลาว และไทย–กัมพูชา 5 จังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงคือ อุบลราชธานี ตาก ศรีสะเกษ ปราจีนบุรี กาญจนบุรี และยะลา คิดเป็นร้อยละ 50 ของผู้ป่วยที่พบทั้งประเทศ