สธ. ตั้งคณะกรรมการศึกษาผลกระทบทีพีพี ย้ำ ศึกษาด้วยวิธี HIA รอบคอบ รอบด้าน ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม คาดได้ผลเบื้องต้นเสนอ ก.พาณิชย์ ประกอบการพิจารณาไทยเข้าร่วมทีพีพีหรือไม่ใน ก.พ. นี้ ด้านเอฟทีเอ ว็อทช์ เตรียมให้ข้อมูลร่วมวันที่ 18 ม.ค. วอนอย่ารีบเร่งศึกษา หวั่นเกิดผลกระทบระยะยาว
นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ตั้งคณะกรรมการนโยบายด้านสาธารณสุขในความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพี (Trans-Pacific Partnership : TPP) มีปลัด สธ. เป็นประธาน และ รมว.สาธารณสุข เป็นที่ปรึกษา ส่วนคณะกรรมการประกอบด้วย ภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น เพื่อร่วมกันวิเคราะห์ผลกระทบของความตกลงทีพีพีต่อระบบสาธารณสุขทั้งด้านบวกและด้านลบ วิธีการและระยะเวลาการดำเนินการศึกษาวิเคราะห์ เพื่อนำเสนอผลการศึกษาดังกล่าวต่อกระทรวงพาณิชย์ เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของความตกลงทีพีพี ภายใน ก.พ. 2559 ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี และจะสามารถนำเสนอผลการศึกษาโดยละเอียดภายใน ต.ค. 2559
“รมว.สาธารณสุข มีความห่วงใยและตระหนักถึงผลกระทบของความตกลงทีพีพีที่อาจจะส่งผลต่อระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับยา การระงับข้อพิพาทระหว่างผู้ลงทุนกับรัฐภาคี การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การนำเข้าเครื่องมือแพทย์มือสอง การให้บริการข้ามแดน มาตรการสุขอนามัย ฉลากแอลกอฮอล์ ฉลากยาสูบ และประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณสุข ส่วนข้อกังวลและความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ สธ. จะนำมาพิจารณา ซึ่งการศึกษาผลกระทบดังกล่าวจะทำอย่างรอบคอบและรอบด้าน โดยประยุกต์วิธีการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (Health Impact Assessment : HIA) มาใช้ในการศึกษา และจะหารือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาสังคม และภาคเอกชนเพื่อให้ผลการศึกษาครอบคลุม รวมทั้งเสนอมาตรการรองรับและการเยียวยาผลกระทบด้านสาธารณสุข หากไทยจะต้องเข้าร่วมในความตกลงทีพีพี” ปลัด สธ. กล่าว
น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล ผู้ประสานงานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมาศึกษาผลกระทบของทีพีพี ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งทางกลุ่มจะเข้าไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการในวันที่ 18 ม.ค.นี้ แต่ที่กังวลคือ มีกระแสว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ อยากให้ประเทศไทยเข้าร่วมทีพีพีอย่างมาก และให้รีบศึกษาผลกระทบและออกมาตรการเยียวยาเลย จึงอยากขอฝ่ายข้าราชการว่าอย่าทำการศึกษาแบบเร่งรีบ ให้ศึกษาโดยละเอียดรอบคอบ และประเมินอย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประชาชนในอนาคต เพราะผลกระทบหากเกิดขึ้นนั้นจะรุนแรงและยาวนาน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่