"หมอวิชัย" เผย 7 กรรมการ สสส.เจ็บปวด ไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังถูกปลด เตรียมหารือร่วมกัน ขอบคุณเครือข่ายสุขภาพขอความเป็นธรรมแทน "หมอยงยุทธ" ห่วง สสส.ชี้ คตร.ปลดล็อกงบวงเงิน 5 ล้านบาทยังไม่ชัดเจน รมว.สธ.ย้ำหลังแก้ระเบียบภาคประชาสังคมเดินหน้าได้ทันที ปลดล็อกสกรีนงบให้รอประชุมบอร์ด สสส.
นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (บอร์ด สสส.) คนที่ 2 กล่าวว่า การที่ คสช.มีคำสั่งปลดกรรมการผู้ทรงวุฒิ 7 คน จาก 9 คน โดยไม่มีคำอธิบายหรือเหตุผลแนบท้าย จนถึงขณะนี้พวกตนก็ยังไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจน ส่วนเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่ระบุว่า กรรมการบางคนนั่งในบอร์ด สสส. และนั่งในมูลนิธิหรือองค์กรที่รับทุน สสส. ถ้าตรวจสอบให้ละเอียดจะพบว่า เป็นข้อมูลเก่า เพราะกรรมการ สสส.ได้ลาออกจากองค์กรนั้นแล้ว การจะเอาเหตุผลอะไรมาปลดกรรมการต้องพิจารณาให้ดีๆ แม้จะปลดด้วยอำนาจ แต่ต้องถามกลับว่าสมควรหรือไม่ ส่วนที่เครือข่ายสุขภาพออกมาเคลื่อนไหวขอความเป็นธรรมให้ผู้ที่ถูกปลดนั้น ต้องขอขอบคุณ แต่ส่วนตัวไม่ยึดติดในตำแหน่ง เพียงแต่กรรมการคนอื่นๆ ที่ถูกปลดมีความไม่สบายใจและอยากนัดหารือกัน ซึ่งอยู่ระหว่างหาวันเวลา บางคนก็ไม่เข้าใจต่อเหตุการณ์ เกิดความเจ็บปวดกับการถูกปลด เพราะทำให้เสียหาย จึงอยากปรึกษาว่าจะทำอย่างไรต่อเท่านั้น ส่วน สสส.นั้นตนไม่ห่วง เพราะเชื่อว่าประเทศไทยไม่สิ้นคนดี
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้มีการนัดหารือกันระหว่างกรรมการที่ถูกปลดทั้ง 7 คน แต่ยังไม่ได้วันเวลา ส่วนการร้องขอความเป็นธรรม ตนยังมองไม่เห็นช่องทางใดๆ เพราะจากการให้สัมภาษณ์ของทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็พบว่าแตกต่างกัน อย่างนายกฯ ระบุว่า ปลดเพื่อสะดวกต่อการสอบสวนข้อเท็จจริง ก็ไม่เข้าใจว่ากรรมการทั้ง 7 คนทำผิดอะไร ส่วนรองนายกฯ บอกลักษณะทับซ้อน ชงเองได้งบเอง ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยอนุมัติงบให้โครงการที่ตนเกี่ยวข้อง และพล.อ.ไพบูลย์ ระบุว่า ดำเนินการไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ ก็ไม่ชัดว่าตนไปมีส่วนอะไรในการบริหารที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์
นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังห่วงการทำงานของ สสส. เพราะ คตร.ปิดล็อกการทำงานโดยโครงการที่งบประมาณเกิน 5 ล้านบาทต้องให้ คตร.อนุมัติ ส่วนงบต่ำกว่า 5 ล้านไม่ต้องให้อนุมัติแต่ก็ต้องแจ้งทุกครั้ง ทำให้การทำงานทุกอย่างต้องชะลอ แม้ล่าสุดบอกว่าปลดล็อกแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นหนังสือ หรือมีผลในทางปฏิบัติ เป็นเพียงวาจาเท่านั้น คงต้องจับตามองว่าการสรรหากรรมการ สสส.ใหม่จะเป็นอย่างไร เพราะหากมีรายชื่อมาก็จะทราบถึงทิศทางของ สสส.ได้
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะรองประธาน สสส.คนที่ 1 กล่าวถึงกรณีมีผู้เสนอให้ยุบ สสส. ว่า ตนขอไม่พูดเรื่องนี้ แต่ สสส.อยู่ในรูปแบบที่ไม่ใช่ราชการน่าจะดีกว่า เพราะการทำงานมีความคล่องตัวกว่า และระบบราชการอาจทำงานที่ลงไปถึงประชาชนไม่สะดวกมากนัก แต่ในเรื่องการทำงานนั้นก็ต้องให้สังคมรับทราบ และเห็นด้วย ทุกอย่างต้องกระจ่างชัด เพราะส่วนตัวคิดว่า สสส.เป็นระบบการทำงานที่ดี แต่ก็อาจต้องมีการปรับปรุงบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเครือข่ายที่รับทุน สสส.กังวลว่า การปลดล็อกงบโครงการวงเงิน 5 ล้านบาทยังไม่มีคำสั่งชัดเจน นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ต้องรอการประชุมบอร์ด สสส. หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงน่าจะเป็นวันที่ 15 ม.ค.นี้ ซึ่งจะมีการรับรองระเบียบที่มีการแก้ไข 26 ฉบับ โดยในระเบียบจะบอกถึงแนวทางการทำงานต่อไปได้ หากทุกอย่างราบรื่นมองว่า เครือข่ายต่างๆ ก็จะทำงานได้เลย ส่วนการปลดล็อกงบวงเงิน 5 ล้านบาท คงต้องรอการประชุมบอร์ดอีกครั้ง แต่ส่วนตัวมองว่าหากแก้ไขระเบียบได้ ก็สามารถเดินหน้าได้ ยกเว้นบางโครงการที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์จริงๆ ต้องพิจารณาอีกที แต่เป็นโครงการส่วนน้อย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่