“หมอวิชัย” งงถูกปลดบอร์ด สสส.เชื่อมีกระบวนการล้มล้าง

“หมอวิชัย” สุดงงถูกปลดบอร์ด สสส. ทั้งที่แจงปมประโยชน์ทับซ้อนแล้ว และอยู่ระหว่างแก้ไข วอนสังคมพิจารณาเองเป็นธรรมหรือไม่ เชื่อมีกระบวนการล้มล้าง สสส. ประธาน กมธ.สธ. สนช. เชื่อไม่มีการล้ม สสส. คาดพบประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อน

นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตรองประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (บอร์ด สสส.) คนที่ 2 กล่าวถึงกรณีคำสั่ง คสช. ปลดบอร์ด สสส. จำนวน 7 คน ว่า ตนไม่ทราบว่าเหตุผลในการปลดบอร์ดคืออะไร แต่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะมีการปลดบอร์ด ซึ่ง สสส. ได้มีการชี้แจงประเด็นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ระเบียบต่าง ๆ และมีการแก้ไขในประเด็นที่ คตร. ให้มีการแก้ไข จึงไม่ทราบว่าทำไมต้องมีการปลด ซึ่งการเปลี่ยนบอร์ดนั้นจำเป็นต้องมีเหตุผลที่เพียงพอ เพราะบอร์ดมาจากกระบวนการสรรหา มีขั้นตอนกว่าจะหาคนที่เข้าใจการทำงานมาไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรมีการเปลี่ยน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปลี่ยนบอร์ดจะมีผลกระทบต่อการทำงานของ สสส. หรือไม่ นพ.วิชัย กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกระบวนการสรรหาว่าจะเป็นไปโดยชอบธรรมเพียงใด ถ้าแค่ต้องเปลี่ยนคนให้ได้ที่เหมาะสมก็ต้องถูกต้องไม่ใช่ถูกใจ สำหรับกระบวนการสรรหานั้น บอร์ดจะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา โดยให้ภาคีเสนอผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม 2 คน เพื่อให้คณะกรรมการสรรหาเลือกให้เหลือเพียง 1 คน ตามสัดส่วนบอร์ดที่ขาดอยู่ ให้ได้จำนวนผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน และต้องมีการส่งให้ ครม. เห็นชอบเพื่อแต่งตั้งต่อไป ซึ่งกระบวนการดังกล่าวมีขั้นตอนอยู่ ส่วนตอนนี้ไม่กังวลอะไรในกระบวนการทำงานของ สสส. โดยส่วนตัวถ้าอยู่ที่ไหนก็จะทำให้ดีที่สุด ถ้าพ้นมาแล้วก็ไม่มีอะไรต้องกังวล และเป็นหน้าที่ของคนที่จะมาอยู่ต่อไป ถ้าทำดีก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา อีกอย่างตนตั้งใจจะลาออกจากบอร์ด สสส.อยู่แล้ว เพราะมีคนค่อนแคะว่าอยู่หลายบอร์ด ทั้งที่เราตั้งใจเสียสละในการทำงาน

เมื่อถามว่า คำสั่งดังกล่าวถือว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ นพ.วิชัย กล่าวว่า เรื่องความเป็นธรรมนั้นก็ต้องให้สังคมเป็นผู้พิจารณาเอง ส่วนตนเป็นผู้ที่ถูกออกคำสั่งจึงขอไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้

นพ.วิชัย กล่าวว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่า มีกระบวนการล้มล้าง สสส. เพราะชนวนเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ การร่าง พ.ร.บ.เหล้า และบุหรี่ ทั้งที่โครงการ สสส. หลายอย่าง ที่ผ่านมาเกิดผลลัพธ์ที่ดี มีข้อมูลชัดเจน ขบวนการนี้มีบริษัทเหล้า บุหรี่ต่างชาติอยู่เบื้องหลังเพราะมองว่ากองทุนสสส.เป็นศัตรูที่จะขัดผลประโยชน์ อย่างไรก็ตาม มองว่า อนาคตของ สสส. หลังจากนี้ ก็ต้องดูว่าอำนาจรัฐที่จะดูแลให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างบริษัทบุหรี่ เหล้า กับผลประโยชน์ของประชาชนว่าจะเอนเอียงไปในทิศทางใด

ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานกรรมาธิการสาธารณสุข (กมธ.สธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า คำสั่งที่เกิดขึ้นคิดว่าเป็นผลต่อเนื่องมาจากการที่ คตร. ได้เข้าตรวจสอบการใช้เงินของ สสส. เชื่อว่า คงพบประเด็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของกรรมการที่รับทุนผ่านมูลนิธิต่างๆ ต้องมีการแก้ไข ไม่ได้มีความต้องการที่จะล้ม อย่างไร สสส. ก็ยังต้องดำรงอยู่ แต่การทำงานจากนี้ต้องโปร่งใส และจะต้องมีความเป็นธรรมาภิบาลมากขึ้นในการอนุมัติงบประมาณ และตรวจสอบได้ โปร่งใส ไม่มีข้อกังขา เช่น กรณีสวดมนต์ข้ามปี เป็นต้น ซึ่งการทำงานจากนี้ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนที่แท้จริง และมีขอบเขตการทำงานที่แคบลงเพื่อให้การทำงานชัดเจน

นพ.เจตน์ กล่าวว่า การทำงานในปี 59 เชื่อว่า ถ้ามีการอนุมัติแผนงานไปแล้วคงไม่กระทบ ถ้าเป็นโครงการที่ยังไม่อนุมัติ คงต้องรอการตรวจสอบ ส่วนเรื่องของความกังวลของกรรมการชุดใหม่ อย่าไปกังวล เพราะกรรมการเป็นแค่หัวเชื้อเพลิงทำหน้าที่ผลักดันไม่ใช่กลไกหลัก และเชื่อว่าโครงการต่างๆ ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และสสส.เป็นกระบวนการที่เป็นมิติใหม่ ไม่ใช่ระบบราชการที่ล่าช้า หากมีการปรับปรุงให้โปร่งใสทุกอย่างจะดำเนินต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลกำลังจะมีกฎหมายป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ 3 ฉบับ ควบคุมกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทั้งระบบ ซึ่งขั้นตอนอยู่ในคณะกรรมการกฤษฎีกา เชื่อว่า ต่อไปทุกขั้นตอนการทำงานก็จะโปร่งใส เป็นกฎหมายควบคุมป้องปราบ และควบคุม หน่วยงานต่าง ๆ

นพ.เสรี ตู้จินดา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ สธ. และ ในฐานะประธานคณะกรรมการทบทวนการบริหารจัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. กล่าวว่า หากถามว่าบอร์ด สสส. จะมีการประชุมและทำงานต่อได้หรือไม่ ตนคงตอบได้เพียงหลักการของการประชุมของบอร์ดทั่ว ๆ ไป ว่า ต้องครบองค์ประชุมก่อน กล่าวคือ ต้องมีทั้งประธาน มีทั้งผู้แทนจากฝ่ายต่าง ๆ รวมทั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เมื่อครบองค์ประชุมก็ต้องมาพิจารณาว่า จำนวนผู้ร่วมประชุมต้องมากกว่ากึ่งหนึ่ง หากผ่านการพิจารณาเหล่านี้ก็สามารถประชุมได้

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่