xs
xsm
sm
md
lg

ออกเวชปฏิบัติลดตายจากการติดเชื้อในกระแสเลือด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


13 องค์กรสุขภาพ ร่วมจัดทำ “เวชปฏิบัติผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด” หวังลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อใน รพ. เน้นตระหนักรู้ เฝ้าระวัง ส่งต่อเร็ว ได้รับยาเหมาะสมและทันเวลา ด้าน สปสช.หนุนเครือข่ายวางระบบดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง ดึง รพ.ร่วมเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง

นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ นายกสมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การติดเชื้อในกระแสโลหิตแบบรุนแรงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตสำคัญของผู้ป่วยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาล แต่สามารถลดลงได้ หากผู้ป่วยได้รับการดูแลและรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้น โดยความร่วมมือประสานทำงานร่วมกันทั้งระบบไม่แต่เฉพาะแพทย์และพยาบาล แต่รวมถึงระดับชุมชนที่ต้องร่วมตระหนักรู้และเฝ้าระวังตั้งแต่ต้นทาง มีระบบการส่งต่อผู้ป่วยชัดเจนและทันท่วงที การให้ยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมในระยะรวดเร็วที่สุด และให้การรักษาอื่นๆ ที่เหมาะสมและถูกต้องตามขั้นตอนการรักษา ซึ่งที่ผ่านมาหลายหน่วยงานได้ร่วมกันพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยขึ้น มีการจัดตั้งเครือข่ายในการเฝ้าระวังและติดตามในหลายจังหวัด จนลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยกลุ่มนี้ลงได้

นพ.ฉันชายกล่าวว่า ขณะนี้สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 13 องค์กร จัดทำ “แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด” (Guideline Severe sepsis and septic shock) ของประเทศไทยและจะเผยแพร่ในปลายปีนี้ ซึ่งได้จากการสังเคราะห์ข้อมูลการดูแลผู้ป่วยที่ผ่านมาและทำการสรุปจนเป็นแนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดที่เหมาะสมกับบริบทกับประเทศไทย จากที่แต่เดิมใช้ข้อแนะนำของต่างประเทศที่อาจมีความแตกต่างบางประการกับการดูแลผู้ป่วยไทย อย่างไรก็ตาม ข้อแนะนำการดูแลผู้ป่วยยังต้องมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เนื่องจากการรักษาผู้ป่วยจะมีข้อมูลความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง จึงยังต้องปรับปรุงทุกระยะต่อไป ทั้งนี้แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดเป็นเพียงแต่แนวทางปฏิบัติเท่านั้น โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยเลือกวิธีรักษาและดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสมที่สุดในแต่ละสถานการณ์

ด้าน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รักษาการเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ปัญหาการติดเชื้อในกระแสเลือดเป็นปัญหาหนึ่งด้านสาธารณสุขที่ สปสช.สนับสนุนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา โดยมีจุดเริ่มต้นระดับเขต โดย สปสช.เขต 2 พิษณุโลก ร่วมกับ รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก เมื่อปี 2555 และดำเนินงานต่อเนื่อง 2 ปี จึงขยายเครือข่ายร่วมกับ 13 องค์กรสู่การแก้ไขระดับประเทศ จัดตั้งเครือข่าย รพ.150 แห่งเพื่อเฝ้าระวัง และปี 2559 สปสช.นอกจากสนับสนุนจัดประชุมภาคีเครือข่าย 13 องค์กร ยังจัดประชุม รพ.ทุกระดับ ทั้ง รพ.มหาวิทยาลัย รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป และ รพ.ชุมชน รวมถึงสนับสนุนจัดทำเวชปฏิบัติเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดและคู่มือประชาชนเพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด เพื่อนำไปสู่การลดอัตราเสียชีวิตผู้ป่วยใน รพ.ที่เกิดจากภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด

ทั้งนี้ 13 องค์กรที่เข้าร่วมเครือข่ายเพื่อแก้ไขปัญหาการติดเชื้อในกระแสเลือดฯ คือ 1. สมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย 2. สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย 3. สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ 4. สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย 5.สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย 6. สำนักการพยาบาล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 7. สภาการพยาบาล 8. สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์กรมหาชน) 9. ชมรมโรคระบบหายใจและเวชบำบัดวิกฤตในเด็กแห่งประเทศไทย 10. ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย 11. ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย 12. ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และ 13. สปสช.

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น