เอ็นจีโอจี้ทบทวนร่าง พ.ร.บ. จีเอ็มโอใหม่ทั้งฉบับ ชี้ ไร้มาตราคุ้มครองความปลอดภัย หวั่นกระทบสุขภาพ
รศ.ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยความปลอดภัยทางชีวภาพ พ.ศ. ... ว่า ขอให้พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวทั้งฉบับ เพราะเนื้อหาสาระไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการคุ้มครองความปลอดภัยแต่อย่างใด ทั้งที่ชื่อร่าง พ.ร.บ. บอกอยู่ว่า ความปลอดภัยทางชีวภาพ แต่กลับสามารถปลดปล่อยรายการพืชจีเอ็มโอ หรือพืชตัดแต่งพันธุกรรมออกสู่ธรรมชาติ มีการอนุญาตให้ศึกษาวิจัยพืชจีเอ็มโอในพื้นที่เปิดซึ่งเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์ พืชข้ามสายพันธุ์ ส่งผลต่อผลผลิตในท้องตลาด ตรงนี้เท่ากับว่า ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่พืชจีเอ็มโอสามารถเข้ามาได้อย่างง่ายดาย เป็นการผลักให้ประชาชนต้องเผชิญกับความเสี่ยงได้รับผลกระทบทางด้านสุขภาพ
“เราต้องควบคุม ป้องกัน และใช้หลักการเฝ้าระวังไว้ก่อน หลายคนถกเถียงกันว่ายังไม่มีข้อพิสูจน์เลยว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็มีการศึกษาวิจัยทยอยออกมาเยอะว่าไม่สามารถพิสูจน์ได้โดยตรง เพราะการก่อปัญหาทางสุขภาพนั้นต้องใช้เวลานาน เลยใช้วิธีการศึกษาย้อนหลังทางระบาดวิทยา ดูความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคพืชจีเอ็มโอกับการก่อโรค พบว่า มีความสัมพันธ์ในการเกิดโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น เมื่อยังไม่มีความมชัดเจนก็ต้องเฝ้าระวังไม่ควรให้มีการปลดปล่อยออกมาแล้วให้ผู้บริโภคเสี่ยง แต่ต้องควบคุม ดูแล มีมาตรการเรื่องความปลอดภัย แต่ พ.ร.บ. นี้ ไม่มีมาตราไหนที่พูดถึงเรื่องนี้” รศ.ดร.จิราพร กล่าวและว่า ตนมองว่า ที่ ครม. ผ่านร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ออกมา เพราะว่าชื่อกฎหมายดี แต่ไม่ทราบว่าได้มีการอ่าน และพิจารณาอย่างละเอียดหรือไม่ ดังนั้น จึงต้องมีการวิเคราะห์ตัวกฎหมายดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
รศ.ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยความปลอดภัยทางชีวภาพ พ.ศ. ... ว่า ขอให้พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวทั้งฉบับ เพราะเนื้อหาสาระไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการคุ้มครองความปลอดภัยแต่อย่างใด ทั้งที่ชื่อร่าง พ.ร.บ. บอกอยู่ว่า ความปลอดภัยทางชีวภาพ แต่กลับสามารถปลดปล่อยรายการพืชจีเอ็มโอ หรือพืชตัดแต่งพันธุกรรมออกสู่ธรรมชาติ มีการอนุญาตให้ศึกษาวิจัยพืชจีเอ็มโอในพื้นที่เปิดซึ่งเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์ พืชข้ามสายพันธุ์ ส่งผลต่อผลผลิตในท้องตลาด ตรงนี้เท่ากับว่า ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่พืชจีเอ็มโอสามารถเข้ามาได้อย่างง่ายดาย เป็นการผลักให้ประชาชนต้องเผชิญกับความเสี่ยงได้รับผลกระทบทางด้านสุขภาพ
“เราต้องควบคุม ป้องกัน และใช้หลักการเฝ้าระวังไว้ก่อน หลายคนถกเถียงกันว่ายังไม่มีข้อพิสูจน์เลยว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็มีการศึกษาวิจัยทยอยออกมาเยอะว่าไม่สามารถพิสูจน์ได้โดยตรง เพราะการก่อปัญหาทางสุขภาพนั้นต้องใช้เวลานาน เลยใช้วิธีการศึกษาย้อนหลังทางระบาดวิทยา ดูความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคพืชจีเอ็มโอกับการก่อโรค พบว่า มีความสัมพันธ์ในการเกิดโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น เมื่อยังไม่มีความมชัดเจนก็ต้องเฝ้าระวังไม่ควรให้มีการปลดปล่อยออกมาแล้วให้ผู้บริโภคเสี่ยง แต่ต้องควบคุม ดูแล มีมาตรการเรื่องความปลอดภัย แต่ พ.ร.บ. นี้ ไม่มีมาตราไหนที่พูดถึงเรื่องนี้” รศ.ดร.จิราพร กล่าวและว่า ตนมองว่า ที่ ครม. ผ่านร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ออกมา เพราะว่าชื่อกฎหมายดี แต่ไม่ทราบว่าได้มีการอ่าน และพิจารณาอย่างละเอียดหรือไม่ ดังนั้น จึงต้องมีการวิเคราะห์ตัวกฎหมายดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่