xs
xsm
sm
md
lg

อย่าตื่น! กิน "เนื้อแดง" ก่อมะเร็ง แนะกินหลากหลาย เพิ่มผักผลไม้ ลดเสี่ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพเอเอฟพี
นักโภชนาการชี้อย่าตื่นข้อมูลวิจัย กิน "เนื้อแดง" เกิดมะเร็ง เหตุมนุษย์ไม่ได้กินแค่เนื้ออย่างเดียว เผยต้นเหตุสำคัญเกิดมะเร็งลำไส้คือ กินอาหารมีกากใยน้อย แนะกินผักผลไม้เพิ่มให้ได้วันละ 400 กรัม กินอาหารหลากหลาย ออกกำลังกาย ช่วยลดความเสี่ยง

รศ.ดร.วิสิฐ จะวะสิต อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงกรณีการองค์การอนามัยโลกเปิดเผยข้อมูล เรื่อง ผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูปและเนื้อแดงก่อมะเร็ง ว่า หากส่วนราชการจะนำผลวิจัยดังกล่าวมาปรับใช้หรือบอกกับประชาชน ต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียดก่อน เพราะสิ่งที่ประกาศนั้นเป็นอาหาร ซึ่งมีทั้งประโยชน์และโทษ อีกทั้งมนุษย์ยังคงต้องการการบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อให้ได้รับโปรตีน จึงต้องวิเคราะห์ให้ละเอียดและชี้แจงต่อประชาชนเพราะเป็นสิ่งที่มีทั้งประโยชน์และโทษ ไม่เหมือนปัจจัยเสี่ยงอย่างอื่น เช่น บุหรี่ หรือ เหล้า ที่มีผลงานวิจัยถึงโทษอย่างชัดเจน อีกทั้งการทดลองดังกล่าวเป็นการทำในปัจจัยควบคุมในห้องทดลอง จึงแสดงผลว่ากินเนื้อแดง ไส้กรอกแล้วจะเป็นมะเร็ง แต่ในความเป็นจริงมนุษย์ไม่ได้บริโภคเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงแปลผลตรงๆ เช่นนั้นได้ยาก

รศ.ดร.วิสิฐ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งมีหลายประการ ไม่ใช่แค่การกินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งแล้วจะเกิดโรคขึ้น โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ เท่าที่มีหลักฐานคือ การบริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์ หรือกากใยน้อย ซึ่งตามปกติต้องบริโภคให้ได้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม โดยพบว่าคนไทยยังบริโภคผัก ผลไม้ ต่ำกว่าปริมาณที่กำหนดมาก นอกจากพฤติกรรมการบริโภค ยังขึ้นอยู่กับกิจกรรมทางกาย การออกกำลังกาย เพื่อให้ลำไส้ได้ทำงาน หากมีพฤติกรรมนั่งทำงานนิ่งๆ ก็จะทำให้เกิดภาวะเสี่ยงเพิ่มขึ้น

"สำหรับอาหารแปรรูปที่ใส่ดินประสิว มีข้อมูลเป็นที่ทราบดีว่าเป็นสารที่ทำให้ก่อมะเร็ง หากมีการใช้มากจนเกินไปในกระบวนการถนอมอาหาร แต่พบว่า หากได้รับวิตามินซี โดยเฉพาะใยอาหารที่อยู่ในผักผลไม้ จะไปช่วยล้างไนโตรซามีนในอาหารที่ผ่านกระบวนการถนอมอาหารได้ ดังนั้น การบริโภคอาหารใดๆ ก็ตาม จึงต้องยึดหลักการกินให้มีความหลากหลาย กินอาหารที่มีกากใยอาหาร ผักผลไม้ให้ได้วันละ 400 กรัม เพราะในอาหารต่างๆ หรือการใช้ชีวิตประจำวันสามารถสัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ หากไม่มีการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระก็เท่ากับไม่มีตัวช่วย นอกจากนี้ ควรกินอาหารแต่พอดี ไม่เยอะไม่น้อยเกินไป  ออกกำลังกาย มีกิจกรรมเคลื่อนไหวไม่ให้ลำไส้อยู่นิ่งๆ ขับถ่ายให้เป็นปกติ ไม่ให้ลำไส้สะสมสารพิษ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้" รศ.ดร.วิสิฐ กล่าว 

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น