ภาคีสุขภาพยื่นหนังสือ สธ. ค้านดึงงบฯ สสส.กลับระบบราชการ ด้าน สธ.ยันไม่แนวคิดยุบ สสส. แต่ต้องทำให้โปร่งใส งบถึงมือประชาชน ขณะที่ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพเรียกร้องตรวจสอบผู้ว่า สตง.สุจริตหรือไม่ ตรวจสอบ สสส. 10 กว่าปีไร้ปัญหา แต่กลับมาโหมให้ข่าวช่วงนี้
วันนี้ (28 ต.ค.) ภาคีสุขภาพ นำโดยนายธีระ วัชรปราณี ผู้ประสานงานขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน เดินทางมายื่นหนังสือต่อ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อคัดค้านการนำงบ สสส.เข้าสู่ระบบงบประมาณรัฐ โดยมี นพ.กิตติศักดิ์ กลับดี เลขานุการรมว.สธ.เป็นผู้แทนรับมอบหนังสือ โดยกล่าวว่า จะเสนอต่อ รมว.สธ. อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสธ.ได้มีการตั้งคณะกรรมการที่มีนพ.เสรี ตู้จินดา เป็นประธาน คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะเชิญ สสส.เข้ามาชี้แจง หลังจากนั้นจะประมวลข้อมูลเพื่อทบทวนระเบียบ แต่ขอยืนยันว่า สธ.ไม่มีแนวคิดที่จะยุบ สสส.แน่นอน เพียงต้องการทำให้โปร่งใส เงินไปถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิก็เป็นเรื่องที่ต้องชี้แจง
นายธีระ กล่าวว่า ขอสนับสนุนให้มีการวางกรอบการตีความการดำเนินงานของ สสส. เพื่อให้การดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กฎหมายได้บัญญัติ เป็นประโยชน์สูงสุดในการสร้างเสริมสุขภาวะของประชาชน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และเป็นบรรทัดฐานสำหรับการตรวจสอบการดำเนินงาน ดังนี้ 1.ขอสนับสนุน ให้การดำเนินงานของ สสส. มีขอบเขตการเสริมสร้างสุขภาพ ตามนิยามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.สสส. และจากบทเรียนของเครือข่ายที่ทำงานด้านนี้อย่างยาวนาน พบว่าสามารถคลี่คลายปัญหาสุขภาพที่มีความซับซ้อนอย่างได้ผล 2.ขอสนับสนุนหลักการที่ให้ สสส. และองค์กรอิสระอื่นๆ เป็นองค์กรที่มีธรรมาธิบาล ตรวจสอบได้ โดยกลไกและกระบวนการตรวจสอบการดำเนินการของ สสส. และองค์กรเหล่านั้น ต้องเป็นไปอย่างมีระบบ มีมาตรฐาน มีขั้นตอนที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยต้องไม่เลือกปฏิบัติ เปิดเผย โปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล และต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกตรวจสอบและผู้เกี่ยวข้อง ได้มีโอกาสได้รับรู้และมีส่วนร่วมในการชี้แจงให้ข้อมูลอย่างเป็นธรรม และต้องให้สังคมได้มีส่วนร่วมรับรู้ข้อเท็จจริงด้วย
และ 3.สสส. คือ องค์กรที่เป็นกลไกอิสระ การแก้ไขใดๆ ต้องไม่ทำให้เป็นระบบราชการ ซึ่งความเป็นอิสระเป็นบทพิสูจน์ว่าได้สร้างนวัตกรรมทางสังคมมากมาย สสส.คือ กองทุนของภาคประชาสังคม แม้ว่าจะมีการปรับปรุงการทำงานของสสส.ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานพึงกระทำอยู่แล้วแต่ควรคงไว้ซึ่งหลักการและเจตนารมณ์การทำงานของสสส.ที่เป็นกลไกสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและให้มีความเป็นอิสระควบคู่กับกลไกการตรวจสอบที่มีมาตรฐาน
ด้าน นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน กล่าวภายหลังยื่นหนังสือต่อนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า ขณะนี้หลายฝ่ายมีการตรวจสอบการใช้งบประมาณของ สสส.และเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายและระเบียบ สสส. ประกอบกับมีข้อมูลบางอย่างจากผู้ว่า สตง. สร้างความคลาดเคลื่อนและเป็นข้อมูลที่ไม่รอบด้าน เครือข่ายฯ ซึ่งเป็นผู้รับทุนไปทำโครงการต่างๆ ก็ยังไม่มีโอกาสชี้แจง จึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเรียกร้องดังนี้ 1.กรณีสวดมนต์ข้ามปียืนยันว่าตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ อยู่ในกรอบของ“สุขภาวะ” เพราะลดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลดอุบัติเหตุ 2.ขอตั้งคำถามต่อ สตง.ว่าตลอดเวลามากกว่า10 ปี ที่ตรวจสอบ สสส.เหตุใดจึงไม่พบความผิดปกติ แต่กลับมาโหมให้ข่าวอย่างผิดปกติในช่วงที่ผ่านมา
3.การสร้างสุขภาวะมีหลักฐานทางวิชาการยอมรับเป็นสากล แต่ผู้ว่าฯสตง.ขาดความรู้ ความเข้าใจ ขาดข้อเท็จจริงในความซับซ้อนของปัญหาสุขภาพ และด่วนสรุปด้วยความคิดตนเอง ซึ่งจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ขอเรียกร้องต่อประชาคมชาว สตง.ให้ช่วยกันตรวจสอบการกระทำของผู้ว่าฯ สตง.ว่า ทำตามหน้าที่ด้วยสุจริตหรือไม่ และ 4.งบประมาณของ สสส.ผ่านการกำกับดูแลโดยคณะกรรมการที่มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ปัญหาการตรวจสอบอยู่ที่การกำหนดกรอบขอบเขตเกี่ยวกับการดำเนินงานที่แตกต่างกัน ซึ่งควรแก้ไขกฎระเบียบให้เป็นไปตามที่กฎหมาย จึงขอคัดค้านการแก้กฎหมาย สสส.ซึ่งทำลายเจตนารมณ์ของกองทุนฯ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (28 ต.ค.) ภาคีสุขภาพ นำโดยนายธีระ วัชรปราณี ผู้ประสานงานขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน เดินทางมายื่นหนังสือต่อ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อคัดค้านการนำงบ สสส.เข้าสู่ระบบงบประมาณรัฐ โดยมี นพ.กิตติศักดิ์ กลับดี เลขานุการรมว.สธ.เป็นผู้แทนรับมอบหนังสือ โดยกล่าวว่า จะเสนอต่อ รมว.สธ. อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสธ.ได้มีการตั้งคณะกรรมการที่มีนพ.เสรี ตู้จินดา เป็นประธาน คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะเชิญ สสส.เข้ามาชี้แจง หลังจากนั้นจะประมวลข้อมูลเพื่อทบทวนระเบียบ แต่ขอยืนยันว่า สธ.ไม่มีแนวคิดที่จะยุบ สสส.แน่นอน เพียงต้องการทำให้โปร่งใส เงินไปถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิก็เป็นเรื่องที่ต้องชี้แจง
นายธีระ กล่าวว่า ขอสนับสนุนให้มีการวางกรอบการตีความการดำเนินงานของ สสส. เพื่อให้การดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กฎหมายได้บัญญัติ เป็นประโยชน์สูงสุดในการสร้างเสริมสุขภาวะของประชาชน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และเป็นบรรทัดฐานสำหรับการตรวจสอบการดำเนินงาน ดังนี้ 1.ขอสนับสนุน ให้การดำเนินงานของ สสส. มีขอบเขตการเสริมสร้างสุขภาพ ตามนิยามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.สสส. และจากบทเรียนของเครือข่ายที่ทำงานด้านนี้อย่างยาวนาน พบว่าสามารถคลี่คลายปัญหาสุขภาพที่มีความซับซ้อนอย่างได้ผล 2.ขอสนับสนุนหลักการที่ให้ สสส. และองค์กรอิสระอื่นๆ เป็นองค์กรที่มีธรรมาธิบาล ตรวจสอบได้ โดยกลไกและกระบวนการตรวจสอบการดำเนินการของ สสส. และองค์กรเหล่านั้น ต้องเป็นไปอย่างมีระบบ มีมาตรฐาน มีขั้นตอนที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยต้องไม่เลือกปฏิบัติ เปิดเผย โปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล และต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกตรวจสอบและผู้เกี่ยวข้อง ได้มีโอกาสได้รับรู้และมีส่วนร่วมในการชี้แจงให้ข้อมูลอย่างเป็นธรรม และต้องให้สังคมได้มีส่วนร่วมรับรู้ข้อเท็จจริงด้วย
และ 3.สสส. คือ องค์กรที่เป็นกลไกอิสระ การแก้ไขใดๆ ต้องไม่ทำให้เป็นระบบราชการ ซึ่งความเป็นอิสระเป็นบทพิสูจน์ว่าได้สร้างนวัตกรรมทางสังคมมากมาย สสส.คือ กองทุนของภาคประชาสังคม แม้ว่าจะมีการปรับปรุงการทำงานของสสส.ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานพึงกระทำอยู่แล้วแต่ควรคงไว้ซึ่งหลักการและเจตนารมณ์การทำงานของสสส.ที่เป็นกลไกสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและให้มีความเป็นอิสระควบคู่กับกลไกการตรวจสอบที่มีมาตรฐาน
ด้าน นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน กล่าวภายหลังยื่นหนังสือต่อนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า ขณะนี้หลายฝ่ายมีการตรวจสอบการใช้งบประมาณของ สสส.และเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายและระเบียบ สสส. ประกอบกับมีข้อมูลบางอย่างจากผู้ว่า สตง. สร้างความคลาดเคลื่อนและเป็นข้อมูลที่ไม่รอบด้าน เครือข่ายฯ ซึ่งเป็นผู้รับทุนไปทำโครงการต่างๆ ก็ยังไม่มีโอกาสชี้แจง จึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเรียกร้องดังนี้ 1.กรณีสวดมนต์ข้ามปียืนยันว่าตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ อยู่ในกรอบของ“สุขภาวะ” เพราะลดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลดอุบัติเหตุ 2.ขอตั้งคำถามต่อ สตง.ว่าตลอดเวลามากกว่า10 ปี ที่ตรวจสอบ สสส.เหตุใดจึงไม่พบความผิดปกติ แต่กลับมาโหมให้ข่าวอย่างผิดปกติในช่วงที่ผ่านมา
3.การสร้างสุขภาวะมีหลักฐานทางวิชาการยอมรับเป็นสากล แต่ผู้ว่าฯสตง.ขาดความรู้ ความเข้าใจ ขาดข้อเท็จจริงในความซับซ้อนของปัญหาสุขภาพ และด่วนสรุปด้วยความคิดตนเอง ซึ่งจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ขอเรียกร้องต่อประชาคมชาว สตง.ให้ช่วยกันตรวจสอบการกระทำของผู้ว่าฯ สตง.ว่า ทำตามหน้าที่ด้วยสุจริตหรือไม่ และ 4.งบประมาณของ สสส.ผ่านการกำกับดูแลโดยคณะกรรมการที่มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ปัญหาการตรวจสอบอยู่ที่การกำหนดกรอบขอบเขตเกี่ยวกับการดำเนินงานที่แตกต่างกัน ซึ่งควรแก้ไขกฎระเบียบให้เป็นไปตามที่กฎหมาย จึงขอคัดค้านการแก้กฎหมาย สสส.ซึ่งทำลายเจตนารมณ์ของกองทุนฯ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่