พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเรียกนายสุปรีดา อดุลยานนท์ รักษาการแทนผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เข้าชี้แจงเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง สสส. และเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนภายในองค์กรที่มีกรรมการ สสส.บางคนไปจัดตั้งมูลนิธิ และรับเงินสนับสนุนจาก สสส. โดยที่ประชุมมีมติร่วมกันว่าควรปรับแก้กฎหมายกองทุน สสส.ใน 3 มาตรา ได้แก่ มาตรา 3 เรื่องนิยามคำว่า "การสร้างเสริมสุขภาพ" ที่ให้ความหมายไว้กว้างเกินไป มาตรา 10 เรื่องการนำส่งรายได้ของกองทุน สสส.ที่ไม่ต้องส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน ซึ่งเปิดโอกาสให้ สสส.ใช้งบประมาณได้อย่างอิสระ และสุดท้ายหมวด 2 เรื่องการบริหารกิจการกองทุนในส่วนของการกำหนดคุณสมบัติของกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิของบอร์ด สสส.
"ทั้ง 3 มาตรา ทั้ง สสส.และฝ่ายตรวจสอบ เห็นด้วยว่าต้องไปทบทวนรายละเอียดของทั้ง 3 มาตรา เพื่อไม่ให้การใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นที่เคลือบแคลงอีกต่อไป ไปปรับปรุงนิยาม การใช้เงิน ปรับปรุงที่มาที่ไปคณะกรรมการ ผมเรียนว่าในเมื่อไม่มีอะไรและต้องการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพแล้วก็ไม่ต้องกลัวการเปลี่ยนแปลงในแง่กฎหมาย" พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
ด้านนายสุปรีดา อดุลยานนท์ รักษาการผู้จัดการ สสส. บอกว่าในวันนี้ได้นำข้อมูลหลักฐานและผลการดำเนินงานทั้งหมดมาชี้แจงกับ ศอตช.และเชื่อว่าสามารถยืนยันการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดของ สสส.ได้ ทั้งเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนภายในองค์ ที่ สสส.ให้ความสำคัญและตรวจสอบดูแลมาโดยตลอด
ศอตช.จะนำข้อมูลและข้อสรุปส่งให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พิจารณารายละเอียดของข้อกฎหมายเพื่อปรับปรุงแก้ไขต่อไป ส่วนประเด็นเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นที่แม้ขณะนี้จะยังไม่พบประเด็นทุจริตในการทำงานของ สสส. แต่ พล.อ.ไพบูลย์ ยืนยันว่า ศอตช.จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป
"ทั้ง 3 มาตรา ทั้ง สสส.และฝ่ายตรวจสอบ เห็นด้วยว่าต้องไปทบทวนรายละเอียดของทั้ง 3 มาตรา เพื่อไม่ให้การใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นที่เคลือบแคลงอีกต่อไป ไปปรับปรุงนิยาม การใช้เงิน ปรับปรุงที่มาที่ไปคณะกรรมการ ผมเรียนว่าในเมื่อไม่มีอะไรและต้องการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพแล้วก็ไม่ต้องกลัวการเปลี่ยนแปลงในแง่กฎหมาย" พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
ด้านนายสุปรีดา อดุลยานนท์ รักษาการผู้จัดการ สสส. บอกว่าในวันนี้ได้นำข้อมูลหลักฐานและผลการดำเนินงานทั้งหมดมาชี้แจงกับ ศอตช.และเชื่อว่าสามารถยืนยันการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดของ สสส.ได้ ทั้งเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนภายในองค์ ที่ สสส.ให้ความสำคัญและตรวจสอบดูแลมาโดยตลอด
ศอตช.จะนำข้อมูลและข้อสรุปส่งให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาธร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พิจารณารายละเอียดของข้อกฎหมายเพื่อปรับปรุงแก้ไขต่อไป ส่วนประเด็นเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นที่แม้ขณะนี้จะยังไม่พบประเด็นทุจริตในการทำงานของ สสส. แต่ พล.อ.ไพบูลย์ ยืนยันว่า ศอตช.จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป