นักโภชนาการ ชี้ เมนูอาหารคลีนลอกจากต่างประเทศ มีราคาแพง แนะกินอาหารคลีนแบบไทย ๆ ลดเติมกะปิ น้ำปลา น้ำตาล ผงชูรส ใช้ผักสด เนื้อสด ปราศจากปนเปื้อน สารเคมี ไม่เน้นหวาน มัน เค็ม พร้อมกินหลากหลาย ก็ช่วยมีสุขภาพดี และคุมน้ำหนัก
นายสง่า ดามาพงษ์ นักโภชนาการเชี่ยวชาญอิสระ ที่ปรึกษากรมอนามัย กล่าวถึงกระแสความนิยมการกินคลีน ว่า การกินคลีนมีที่มาจากประเทศแถบยุโรป ที่พบว่าการบริโภคอาหารสำเร็จรูป หวาน มัน เค็ม มากเกินไป ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ทั้งโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน จึงหันมากินอาหารแบบที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งมากนัก และเป็นอาหารปรุงสดใหม่ ซึ่งอาหารคลีนที่จำหน่ายในปัจจุบันลอกเมนูมาจากต่างประเทศ ทำให้มีราคาแพง แต่ความจริงแล้ว อาหารไทยก็สามารถทำเป็นอาหารคลีนได้ โดยมีหลักการว่า อาหารที่นำมารับประทานต้องไม่ผ่านกระบวนการถนอมอาหาร คือ หมัก ดอง แช่แข็ง สำเร็จรูป ต้องเป็นผักสด ปลาสด ปราศจากการปนเปื้อน ผักปลอดสารเคมี อินทรีย์ ที่สำคัญคือ ต้องทานอาหารครบ 5 หมู่
นายสง่า กล่าวว่า อาหารไทยจำนวนมากเป็นอาหารคลีนได้ โดยลดการเติมกะปิ น้ำปลา น้ำตาล ผงชูรส และเปลี่ยนเป็นข้าวกล้อง ที่ไม่ผ่านการขัดสี ดังนั้น เมนูผักต้ม ผักสด ปลาทู น้ำพริก ก็สามารถเป็นอาหารคลีนได้ แม้แต่เนื้อสัตว์ก็ไม่จำเป็นต้องกินแต่อกไก่ แต่เลือกกินเนื้อแดงไม่ติดมัน หรือปลาแทนได้ ทั้งนี้ การกินคลีนแล้วจะดีต่อสุขภาพได้ ก็ต้องเน้นผักจากธรรมชาติ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน เพราะในผักมีไฟเบอร์ ดูดซับสารพิษออกจากร่างกายได้ ไม่เน้นหวาน มัน เค็ม ไม่เน้นอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง และอาหารคลีน ยังถือว่ามีแคลอรีต่ำ เพราะไม่หวาน ไม่มัน ไม่เค็ม โดยหลักการก็จะสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณให้พอดี และเลือกทานอาหารให้หลากหลาย
“ในการประชุมวิชาการโภชนาการ วันที่ 21 - 23 ต.ค. นี้ ในหัวข้อ “โภชนาการดีถ้วนหน้า ตามรอยพระบาทเจ้าฟ้านักโภชนาการ” ซึ่งจะมีทั้งนิทรรศการ และหัวข้อประชุมที่น่าสนใจ ซึ่งในช่วงกลางวันจะเป็นภาคของนักวิชาการ และในช่วงเย็นจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมฟังหัวข้อที่น่าสนใจ ซึ่งได้เลือกหัวข้อที่ประชาชนให้ความสนใจ และยังมีความเชื่อความเข้าใจผิดๆเผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ โดยจะได้คัดเลือกหัวข้อที่ประชาชนมักเข้าใจผิดมาเสนอตามหลักวิชาการที่แท้จริง เช่น เรื่องน้ำมันหมู น้ำมันพืช คนไทยป่วยเป็นมะเร็งเพราะกินอาหารใส่กะทิค้างคืนจริงหรือไม่ เป็นต้น โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ที่ www.tcn-conference.com” นายสง่า กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายสง่า ดามาพงษ์ นักโภชนาการเชี่ยวชาญอิสระ ที่ปรึกษากรมอนามัย กล่าวถึงกระแสความนิยมการกินคลีน ว่า การกินคลีนมีที่มาจากประเทศแถบยุโรป ที่พบว่าการบริโภคอาหารสำเร็จรูป หวาน มัน เค็ม มากเกินไป ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ทั้งโรคอ้วน ความดัน เบาหวาน จึงหันมากินอาหารแบบที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งมากนัก และเป็นอาหารปรุงสดใหม่ ซึ่งอาหารคลีนที่จำหน่ายในปัจจุบันลอกเมนูมาจากต่างประเทศ ทำให้มีราคาแพง แต่ความจริงแล้ว อาหารไทยก็สามารถทำเป็นอาหารคลีนได้ โดยมีหลักการว่า อาหารที่นำมารับประทานต้องไม่ผ่านกระบวนการถนอมอาหาร คือ หมัก ดอง แช่แข็ง สำเร็จรูป ต้องเป็นผักสด ปลาสด ปราศจากการปนเปื้อน ผักปลอดสารเคมี อินทรีย์ ที่สำคัญคือ ต้องทานอาหารครบ 5 หมู่
นายสง่า กล่าวว่า อาหารไทยจำนวนมากเป็นอาหารคลีนได้ โดยลดการเติมกะปิ น้ำปลา น้ำตาล ผงชูรส และเปลี่ยนเป็นข้าวกล้อง ที่ไม่ผ่านการขัดสี ดังนั้น เมนูผักต้ม ผักสด ปลาทู น้ำพริก ก็สามารถเป็นอาหารคลีนได้ แม้แต่เนื้อสัตว์ก็ไม่จำเป็นต้องกินแต่อกไก่ แต่เลือกกินเนื้อแดงไม่ติดมัน หรือปลาแทนได้ ทั้งนี้ การกินคลีนแล้วจะดีต่อสุขภาพได้ ก็ต้องเน้นผักจากธรรมชาติ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน เพราะในผักมีไฟเบอร์ ดูดซับสารพิษออกจากร่างกายได้ ไม่เน้นหวาน มัน เค็ม ไม่เน้นอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง และอาหารคลีน ยังถือว่ามีแคลอรีต่ำ เพราะไม่หวาน ไม่มัน ไม่เค็ม โดยหลักการก็จะสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณให้พอดี และเลือกทานอาหารให้หลากหลาย
“ในการประชุมวิชาการโภชนาการ วันที่ 21 - 23 ต.ค. นี้ ในหัวข้อ “โภชนาการดีถ้วนหน้า ตามรอยพระบาทเจ้าฟ้านักโภชนาการ” ซึ่งจะมีทั้งนิทรรศการ และหัวข้อประชุมที่น่าสนใจ ซึ่งในช่วงกลางวันจะเป็นภาคของนักวิชาการ และในช่วงเย็นจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมฟังหัวข้อที่น่าสนใจ ซึ่งได้เลือกหัวข้อที่ประชาชนให้ความสนใจ และยังมีความเชื่อความเข้าใจผิดๆเผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ โดยจะได้คัดเลือกหัวข้อที่ประชาชนมักเข้าใจผิดมาเสนอตามหลักวิชาการที่แท้จริง เช่น เรื่องน้ำมันหมู น้ำมันพืช คนไทยป่วยเป็นมะเร็งเพราะกินอาหารใส่กะทิค้างคืนจริงหรือไม่ เป็นต้น โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ที่ www.tcn-conference.com” นายสง่า กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่