เครือข่ายหมออนามัย ระดมวิชาชีพสาธารณสุขประชุมวิชาการใหญ่ 26 - 28 เม.ย. นี้ หวังสร้างความแข็งแกร่งสภาวิชาชีพใหม่ หนุน สปสช. ตั้งกองทุนส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคระดับอำเภอ
นายปิ่น นันทะเสน นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข และเลขาธิการสภาการสาธารณสุขชุมชน กล่าวว่า ในวันที่ 26 - 29 เมษายน นี้ เครือข่ายหมออนามัย ได้แก่ ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย สมาคมหมออนามัย มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย และสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข นำโดย นายปรเมฐ์ จินา ประธานชมรมสาธารณสุขอำเภอ นายสาคร นาต๊ะ นายกสมาคมหมออนามัย และ นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย จัดประชุมวิชาการ “รวมพลังหมออนามัย สร้างสภาเพื่อความก้าวหน้าวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน” ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ จ.ปทุมธานี เพื่อสร้างการรับรู้และมีส่วนร่วมในการพัฒนาวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน ในการหนุนเสริมระบบสุขภาพที่เข้มแข็งของประเทศไทย
นายปิ่น กล่าวว่า ขณะนี้แม้สถานการณ์ของบ้านเมืองจะยังไม่ปกติ แต่ในส่วนของสาธารณสุข ภายใต้การนำของ รมว.สาธารณสุข กลับเห็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่สามารถทำงานร่วมกันและช่วยเหลือกันดีขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้ทีมงานในพื้นที่แก้ไขปัญหาและทำงานเชิงรุกได้ง่ายขึ้น เป็นโอกาสที่จะมีการปฏิรูปพัฒนาระบบสาธารณสุขครั้งใหญ่เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากขึ้น
ประกอบกับขณะนี้ พ.ร.บ. วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ. 2556 ได้ประกาศใช้แล้ว และอยู่ในระหว่างเตรียมการเลือกตั้งคณะกรรมการวิชาชีพอย่างเป็นทางการ ทางเครือข่ายจึงได้จัดประชุมวิชาการเพื่อพัฒนาการสาธารณสุขชุมชนขึ้นมีสมาชิกเครือข่ายเข้าร่วมพันกว่าคน และได้เชิญนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มาบรรยายพิเศษเรื่อง “วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนกับบทบาทและความร่วมมือขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ” เพื่อเตรียมความพร้อมให้สมาชิกเครือข่ายมีส่วนร่วมกับการปฏิรูปประเทศ และเป็นเจ้าของสภาวิชาชีพใหม่
นายปิ่น กล่าวต่อว่า ขณะนี้เท่าที่ดูจากงานภายนอก บุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่พอใจที่เห็นการทำงานระหว่างปลัดกระทรวงสาธารณสุขท่านใหม่ และ รักษาการเลขาธิการ สปสช. ปัจจุบัน มีการร่วมมือเปลี่ยนไปจากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมามาก งานต่าง ๆ เช่น งานส่งเสริมสุขภาพตามกลุ่มวัย หรืองานดูแลผู้สูงอายุแบบบูรณาการในชุมชน การทำงานร่วมกันทั้งส่วนกลางและพื้นที่เห็นผลชัดเจนมากขึ้น
“อยากให้ผู้นำของทั้ง 2 หน่วยงานจับมือกันทำงานแบบนี้ และให้ความสำคัญกับงานพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขปฐมภูมิและสุขภาพชุมชนมากขึ้น โดยมีทีมงานหมอครอบครัวเป็นกำลังหลัก ไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือเกิดความขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมาในอดีต” นายปิ่น กล่าว
นายปิ่น กล่าวว่า ในส่วนของการสรรหาเลขาธิการ สปสช. คนใหม่นั้น เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญเพราะเป็นผู้ดูแลการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพทั้งประเทศ เครือข่ายวิชาชีพสาธารณสุขเห็นว่าเลขาธิการ สปสช. คนใหม่ จำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูง รู้งานนโยบายและงานปฏิบัติในพื้นที่ มีความเข้าใจและสามารถทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้ และที่สำคัญต้องเป็นผู้บริหารจัดการระบบเก่ง เห็นความสำคัญของงานสาธารณสุขเชิงรุก สามารถทำให้งานของ สปสช. ต่อเนื่องได้
ด้าน นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย กล่าวว่า เครือข่ายหมออนามัยได้มีข้อเสนองานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคไปยังกระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. ว่า เพื่อสนับสนุนระบบบริการปฐมภูมิและสุขภาพชุมชนให้เข้มแข็งมากขึ้นสอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศ ควรปรับวิธีสนับสนุนงบประมาณส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยจัดตั้งเป็นกองทุนส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคระดับอำเภอและมีการตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอที่ประกอบด้วยหลายภาคส่วน เพื่อบริหารดูแลปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ร่วมกับกองทุนหลักประกันสุขภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ เพื่อให้งานสาธารณสุขในพื้นที่เกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่