xs
xsm
sm
md
lg

จ่อถกคลอด กม.คุม “เมาแล้วปั่น” เผยญี่ปุ่น สหรัฐฯ ยุโรป บังคับใช้แล้ว โทษแรงเท่ารถยนต์ มอเตอร์ไซค์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จ่อถกคลอด กม. ควบคุม “เมาแล้วปั่น” ต.ค.นี้ “หมอแท้จริง” เผย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ยุโรป มีกฎหมายควบคุมแล้ว เผยบทลงโทษไม่แตกต่างจากรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เหตุประชาชนเห็นด้วยช่วยปกป้องชีวิต ทรัพย์สิน ด้าน “หมอสมาน” ระบุเอาผิดเมาแล้วปั่น ต่อเมื่อกินไปด้วย ปั่นไปด้วย ชี้ ต้องแก้ พ.ร.บ. จราจรทางบก เครือข่ายอุบัติเหตุเผยจักรยานเกิดอุบัติเหตุมากสุดอันดับ 2
แฟ้มภาพ
จากกรณีตำรวจจับผู้ขับขี่รถจักรยานขณะมึนเมา ด้วยจับตรวจวัดแอลกอฮอล์ จนส่งฟ้องศาล ซึ่งศาลได้ยกฟ้อง เนื่องจากไม่มีกฎหมายเอาผิดได้ เพราะรถจักรยานไม่ใช่รถในความหมายของ พ.ร.บ. จราจร พ.ศ. 2522 ซึ่งประเด็นนี้ทำให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วปั่นจักรยาน โดยมีอาการมึนเมานั้น ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ หรือควรมีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้ครอบคลุมการปั่นจักรยานด้วย

นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ไม่ครอบคลุมเรื่องเมาแล้วปั่นจักรยาน เพราะกฎหมายจะเน้นเรื่องการห้ามขายห้ามดื่มมากกว่า หากจะเอาผิดจริง ๆ ก็ต้องเป็นในกรณีขับขี่จักรยานไปด้วยและดื่มไปด้วย จึงจะจับกุมได้ แต่จะไม่ค่อยพบกรณีแบบนี้ นอกจากนี้ การจะเอาผิดอาจจะต้องแก้ไข พ.ร.บ. จราจรทางบก ด้วย เพราะมาตรา 43 วงเล็บสอง ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถขณะเมาสุรา ซึ่งนิยามของคำว่า รถ หมายถึงรถทุกประเภท ยกเว้นรถไฟ รถราง รวมถึงรถจักรยานด้วย แต่ในมาตรา 84 ของ พ.ร.บ. เดียวกันในหมวดจักรยานกลับอนุโลม ไม่ได้ควบคุมตรงนี้

นพ.แท้จริง ศิริพานิช ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า ขณะนี้มูลนิธิได้มีการหารือร่วมกับทางสำนักงานอัยการสูงสุด ชมรมจักรยาน และทางหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่า จะมีการจัดเวทีเสวนาการผลักดันกฎหมายควบคุมเมาแล้วปั่น ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการคาดว่าจะจัดงานได้ภายหลัง ต.ค. นี้ เพื่อระดมความคิดเห็นแต่ละภาคส่วน ว่า เห็นด้วยหรือไม่หากมีกฎหมายมาควบคุมการเมาแล้วปั่น ซึ่งในต่างประเทศทั้งญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป มีมาตรการควบคุมในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งบทลงโทษจะยึดหลักไม่แตกต่างจากการเมาแล้วขับขี่พาหนะทั่วไป ทั้งรถยนต์ และจักรยานยนต์ โดยประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย เนื่องจากเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตัวเองและบุคคลอื่น

ด้าน นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวว่า จากข้อมูลของมูลนิธิไทยโรดส์ พบว่า จักรยานเป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุดเป้นอันดับ 2 รองลงมาจากรถจักรยานยนต์ ซึ่งสูงถึง 75% โดยภาพรวมกลุ่มที่บาดเจ็บมากที่สุดคือ 15 - 19 ปี ส่วนจังหวัดที่มีการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด คือ จ.ระยอง มากถึง 75.78 คนต่อแสนประชากร

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น