xs
xsm
sm
md
lg

บัตรทองใช้ยารักษามะเร็งนอกโปรโตคอลได้ แต่เบิกไม่เกิน 4,000 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“หมอสุดสวาท” แจงโปรโตคอลช่วยรักษามะเร็งมีมาตรฐาน ระบุสิทธิบัตรทองใช้ยานอกโปรโตคอลได้ แต่เบิกได้ไม่เกิน 4,000 บาท ชี้ใช้ยาราคาแพงได้ เพราะบางตัวอยู่ในสูตรโปรโตคอล เสนอ สปสช. ต่อรองราคายามุ่งเป้า ซื้อภาพรวมระดับประเทศ ให้ผู้ป่วยมีกำลังร่วมจ่ายเพื่อเข้าถึงยา

พญ.สุดสวาท เลาหวินิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี ในฐานะประธานคณะทำงานพัฒนาแนวทางการจ่ายชดเชยค่าบริการโรคมะเร็งโดยการจัดทำแนวทางการรักษาโรคมะเร็ง (Protocol) เพื่อประกอบการจ่ายชดเชยค่าบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) กล่าวว่า การรักษาโรคมะเร็งมีการกำหนดโปรโตคอล หรือแนวทางการรักษาด้วยสูตรยาเคมีบำบัด เพื่อให้เกิดการรักษาที่เป็นมาตรฐาน และแพทย์โดยมากก็เห็นด้วยกับประโยชน์ของโปรโตคอลนี้ แต่ถามว่าใช้ยานอกโปรโตคอลได้หรือไม่ ก็สามารถใช้ได้ หากคนไข้บางส่วนใช้ยาโปรโตคอลแล้วอาจจะมีปัญหา เช่น คนไข้มีโรคหัวใจร่วมด้วยและยาบางตัวมีผลต่อหัวใจ ก็อาจไปใช้ยาตัวอื่นที่นอกเหนือจากโปรโตคอล หรือยาเคมีบำบัดอาจแรงไปสำหรับบางคน ก็อาจปรับเปลี่ยนตัวยา ซึ่ง สปสช. ก็ให้เบิกจ่ายยานอกโปรโตคอลได้ในระดับหนึ่ง ไม่เกิน 4,000 บาท แต่ถ้าใช้ตามโปรโตคอลก็สามารถใช้ยาราคาแพงได้ตามแนวทางที่เป็นมาตรฐานการรักษา เพราะยาที่นำมาเข้าโปรโตคอลบางตัวก็เป็นยาราคาแพง 10,000 - 20,000 บาทต่อครั้ง

สูตรโปรโตคอลของ สปสช. มีการทบทวนทุก 3 ปี และเพิ่งทบทวนกันไป กำลังจะประกาศใช้ใน 1 ต.ค. นี้ แม้จะยังไม่ครอบคลุมการรักษาตามแนวทางใหม่ ๆ เช่น ยามุ่งเป้า แต่ก็ต้องยอมรับว่ายามุ่งเป้าเป็นยาที่ราคาแพงมาก ตั้งแต่ 50,000 - 60,000 บาท ไปจนถึง 300,000 บาทต่อเดือน ไม่ใช่แค่ไทยที่มีปัญหาค่าใช้จ่าย ต่างประเทศก็มี ดังนั้น จึงมีวิธีการจ่ายที่ต่างกัน แต่ยืนยันได้ว่าโปรโตคอล 11 โรคมะเร็งที่พบได้บ่อยนั้น ครอบคลุมยาพื้นฐานในบัญชียาหลัก ยกเว้นยามุ่งเป้า และยาเคมีบำบัดบางตัวที่มีราคาแพงมาก แพทย์ส่วนใหญ่ก็มีความประสงค์อยากให้คนไข้ได้รับการรักษาดีที่สุด ต้องบอกว่าหลายประเทศก็ไม่สามารถที่จะให้ยามุ่งเป้ากับผู้ป่วยทุกคนได้ เพราะงบประมาณที่ไม่เพียงพอ ถ้าเราสามารถปรับให้ทุกคนสามารถใช้ยาได้ทั้งหมดโดยไม่มีปัญหางบประมาณก็จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ในความเป็นจริงไม่สามารถทำได้” พญ.สุดสวาท กล่าว

พญ.สุดสวาท กล่าวว่า ตนคิดว่าน่าจะมีการร่วมจ่ายในยาบางตัว สำหรับผู้ป่วยที่พอมีทุนทรัพย์ที่สามารถจ่ายได้ ถ้าเราสามารถที่จะต่อรองราคายาในภาพรวมระดับประเทศ เพื่อให้ได้ราคาที่ลดลง ก็จะทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงคุณภาพยากับการต่อรองราคา ต้องบอกว่า ยามะเร็งที่จัดซื้อรวมมีคุณภาพ เพราะการรักษามะเร็งมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง ดังนั้น ยาต้องได้มาตรฐาน บางครั้งที่ไม่สามารถหายาสามัญได้ ก็ต้องไปซื้อยาต้นแบบจากบริษัทที่ผลิตยานี้ตั้งแต่แรกมาให้ใช้ตามบัญชียา จ(2) ซึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถของ สปสช. ในการต่อรองราคา อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ ส่วนใหญ่คนไข้สิทธิ 30 บาท มักจะมาถึงเมื่อป่วยระยะ 3 หรือ 4 แล้ว ทำให้การรักษายากและผลการรักษาไม่ดีเท่าการรักษาคนไข้ที่มาระยะแรก ๆ

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น