เลขาธิการ สปสช.เปิดโต๊ะแถลงเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกสั่งย้ายเข้ากรุ สำนักปลัด สธ. งงทำผิดอะไร ชี้ใช้มาตรา 44 ย้ายคนมีปัญหาทุจริต แจง สปสช.ไม่มีปัญหาทุจริต มีเพียงการตรวจสอบดุลพินิจการบริหารกองทุนเท่านั้น ส่วนรักษาการเลขาธิการ สปสช. รอประชุมบอร์ดเคาะ 6 ก.ค.
จากกรณีหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) พ.ศ.2557 ออกคำสั่งย้าย 71 ข้าราชการ ซึ่งรวมถึง นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยระบุว่า เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของงานอันเป็นประโยชน์ในการปฏิรูปราชการแผ่นดิน
ล่าสุด วันนี้ (26 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณโถงสำหนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีบุคลากรและเจ้าหน้าที่ของ สปสช.ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อกรณีดังกล่าว โดยทำการปิดไฟทั้งสำนักงาน พร้อมเปิดไฟฉาย และจุดเทียน เพื่อแสดงสัญลักษณ์ของการนำแสงสว่างมาสู่ สปสช. เพราะขณะนี้ สปสช.อยู่ในความมืดมิด และแสงไฟที่ส่องเพื่อขอความเป็นธรรม เป็นความหวังที่จะได้กลับคืน นอกจากนี้ ยังมีการชูป้ายกระดาษเอ 4 เดินเรียงต่อกันว่า “สปสช. โปร่งใส บริสุทธิ์ ไม่ผิด ” ฯลฯ โดยมีนางพนิต มโนการ ผู้ช่วย ผอ.สปสช.เขต 4 เป็นผู้นำในการชวนบุคลากรร้องเพลงเพื่อนร่วมทาง ซึ่งเป็นประจำ สปสช. ภญ.เนตรนภิส สุชนวนิช รองเลขาธิการ สปสช. นำร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา
ทั้งนี้ ก่อน นพ.วินัย จะแถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าว นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช. นพ.วีระวัฒน์ พันธุ์ครุฑ รองเลขาธิการสปสช. ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ได้ทยอยมอบดอกไม้ และตะเกียงส่องสว่างเป็นกำลังใจให้ นพ.วินัย และยังร่วมลงชื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพื่อส่งไปยังรัฐบาลภายในสัปดาห์หน้า
นางพนิต มโนการ ผู้ช่วย ผอ.สปสช.เขต 4 กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้ นพ.วินัย เนื่องจากชาว สปสช.มองว่าคำสั่งย้ายครั้งนี้ไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนว่าย้ายเพราะอะไร แต่กลับถูกเหมารวม เพราะในประกาศย้ายว่าเป็นเรื่องของความทุจริต คอร์รัปชัน แต่ที่ผ่านมา สปสช.ไม่มีเรื่องทุจริต ทำงานเพื่อประชาชนมาตลอด วันนี้จึงต้องการแสดงออกเพื่อให้สังคมรับรู้ว่าชาว สปสช.ขอเรียกร้องความเป็นธรรมด้วยจุดเทียนส่องสว่างเพื่อให้ผู้มีอำนาจได้เห็นถึงข้อเท็จจริง
นพ.วินัย กล่าวว่า เบื้องต้นได้โทรศัพท์พูดคุยกับ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข(สธ.) แล้ว แต่ก็ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าถูกย้ายเพราะอะไร แต่ก็ยินดีหากจะทำให้การตรวจสอบดำเนินการต่อไปได้ ส่วนจะให้ตนทำงานอะไรขึ้นอยู่กับ รมว.สธ. ถือเป็นการพักผ่อน ทั้งนี้ การถูกสั่งย้ายดังกล่าว หากเป็นเพราะกรณีการใช้จ่ายงบบัตรทอง ขอชี้แจงว่าเรื่องนี้มาจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบเมื่อปี 2554 - 2555 โดยทักท้วงการบริหารในบางประเด็นของ สปสช.สาขาจังหวัด และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้เข้ามาตรวจสอบรวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ก็ตรวจสอบอีก ซึ่งที่ผ่านมามีการชี้แจงไปแล้วโดยบอร์ด สปสช.
ผู้สื่อข่าวถามว่า การถูกย้ายเบื้องต้นอาจเป็นเพราะการบริหารงบผิดประเภทที่ คตร.เคยระบุไว้ นพ.วินัย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องขอเห็นหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการก่อน แต่ที่ผ่านมาไม่เคยถูกกล่าวหาว่าทุจริต การตรวจสอบที่เกิดขึ้นเป็นการตรวจสอบการใช้ดุลพินิจในการใช้อำนาจของบอร์ด สปสช. ในการกำหนดหลักเกณฑ์การบริหารกองทุน เช่น มาตรา 18 (4) กรณีจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ให้บริการ ส่วนการทำหน้าที่ของเลขาธิการก็ให้ความร่วมมืออย่างดีในเรื่องการตรวจสอบมาตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่าการทำงานที่ผ่านมา มาจากมติบอร์ด สปสช. เลขาธิการไม่ควรเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบใช่หรือไม่ นพ.วินัย กล่าวว่า เรื่องกติกา ระเบียบต่างๆ ที่กำหนดในการบริหารจัดการ เป็นมติของบอร์ดหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนฯ เมื่อปี 2546 มี รมว.สธ. มาเป็นประธานบอร์ดหลายคนร่วม 14-15 คน แต่ละบอร์ดที่มีมติออกมาก็เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ดังนั้น หากจะมีการปรับปรุงในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ได้พูดคุยกันว่า จะต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ให้บริการมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาถือเป็นช่องว่างมาตลอด
"ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ทำหน้าที่เลขาธิการ สปสช. ได้ทุ่มเททำงานเพื่อพัฒนาระบบบัตรทอง เพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงานในระดับดีเยี่ยม หรือ A ติดต่อกันทุกปี ทำให้ สปสช.ได้รับรางวัลการบริหารกองทุนหมุนเวียนดีเด่นจากกรมบัญชีกลางติดต่อกันถึง 6 ปี และที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีปัญหาการทำหน้าที่เลขาธิการ ผมเคารพในคำสั่งโยกย้าย แต่การใช้มาตรา 44 นี้เป็นการย้ายด้วยวิธีพิเศษ ที่ควรจะเป็นไปเพราะบุคคลมีปัญหาทุจริต ประพฤติมิชอบ หากปล่อยไปจะเกิดความเสียหาย หรือไร้ความสามารถ แต่เมื่อไม่มีเหตุเช่นนั้น เพราะไม่ถูกกล่าวหา จึงไม่ทราบว่ามีสาเหตุจากอะไร จึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง อย่างไรก็เสีย สำหรับคนที่จะมารักษาการเลขาธิการสปสช.นั้น คงต้องรอมติบอร์ดสปสช. ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 6 ก.ค.นี้" นพ.วินัย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมน้ำตาคลอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การย้ายอาจเพื่อให้ดูเป็นธรรมกับ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดสธ.ที่ถูกย้ายไปก่อนหน้านี้ นพ.วินัย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่เรื่องการบริหารงบ สปสช. น่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน คงต้องไปถามผู้ที่มีอำนาจโดยตรง เรื่องนี้ไม่ทราบจริงๆ
เมื่อถามว่ามีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าการย้ายครั้งนี้ ควรย้ายประธานบอร์ด สปสช.มากกว่า นพ.วินัย กล่าวว่า ไม่ทราบ และเมื่อถามอีกว่าเลขาธิการ สปสช.เป็นเหยื่อครั้งนี้หรือไม่ นพ.วินัย ไม่ตอบ แต่หัวเราะเท่านั้น นอกจากนี้ ยังถามว่าคิดว่าจะได้กลับมาทำงานที่ สปสช. อีกหรือไม่ นพ.วินัย กล่าวว่า หากทุกอย่างมีการตรวจสอบแล้วเสร็จ ข้อเท็จจริงปรากฏ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะตนจะหมดวาระใน พ.ค.2559
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
จากกรณีหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) พ.ศ.2557 ออกคำสั่งย้าย 71 ข้าราชการ ซึ่งรวมถึง นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยระบุว่า เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของงานอันเป็นประโยชน์ในการปฏิรูปราชการแผ่นดิน
ล่าสุด วันนี้ (26 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณโถงสำหนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีบุคลากรและเจ้าหน้าที่ของ สปสช.ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อกรณีดังกล่าว โดยทำการปิดไฟทั้งสำนักงาน พร้อมเปิดไฟฉาย และจุดเทียน เพื่อแสดงสัญลักษณ์ของการนำแสงสว่างมาสู่ สปสช. เพราะขณะนี้ สปสช.อยู่ในความมืดมิด และแสงไฟที่ส่องเพื่อขอความเป็นธรรม เป็นความหวังที่จะได้กลับคืน นอกจากนี้ ยังมีการชูป้ายกระดาษเอ 4 เดินเรียงต่อกันว่า “สปสช. โปร่งใส บริสุทธิ์ ไม่ผิด ” ฯลฯ โดยมีนางพนิต มโนการ ผู้ช่วย ผอ.สปสช.เขต 4 เป็นผู้นำในการชวนบุคลากรร้องเพลงเพื่อนร่วมทาง ซึ่งเป็นประจำ สปสช. ภญ.เนตรนภิส สุชนวนิช รองเลขาธิการ สปสช. นำร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา
ทั้งนี้ ก่อน นพ.วินัย จะแถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าว นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช. นพ.วีระวัฒน์ พันธุ์ครุฑ รองเลขาธิการสปสช. ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ได้ทยอยมอบดอกไม้ และตะเกียงส่องสว่างเป็นกำลังใจให้ นพ.วินัย และยังร่วมลงชื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพื่อส่งไปยังรัฐบาลภายในสัปดาห์หน้า
นางพนิต มโนการ ผู้ช่วย ผอ.สปสช.เขต 4 กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้ นพ.วินัย เนื่องจากชาว สปสช.มองว่าคำสั่งย้ายครั้งนี้ไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนว่าย้ายเพราะอะไร แต่กลับถูกเหมารวม เพราะในประกาศย้ายว่าเป็นเรื่องของความทุจริต คอร์รัปชัน แต่ที่ผ่านมา สปสช.ไม่มีเรื่องทุจริต ทำงานเพื่อประชาชนมาตลอด วันนี้จึงต้องการแสดงออกเพื่อให้สังคมรับรู้ว่าชาว สปสช.ขอเรียกร้องความเป็นธรรมด้วยจุดเทียนส่องสว่างเพื่อให้ผู้มีอำนาจได้เห็นถึงข้อเท็จจริง
นพ.วินัย กล่าวว่า เบื้องต้นได้โทรศัพท์พูดคุยกับ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข(สธ.) แล้ว แต่ก็ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าถูกย้ายเพราะอะไร แต่ก็ยินดีหากจะทำให้การตรวจสอบดำเนินการต่อไปได้ ส่วนจะให้ตนทำงานอะไรขึ้นอยู่กับ รมว.สธ. ถือเป็นการพักผ่อน ทั้งนี้ การถูกสั่งย้ายดังกล่าว หากเป็นเพราะกรณีการใช้จ่ายงบบัตรทอง ขอชี้แจงว่าเรื่องนี้มาจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบเมื่อปี 2554 - 2555 โดยทักท้วงการบริหารในบางประเด็นของ สปสช.สาขาจังหวัด และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้เข้ามาตรวจสอบรวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ก็ตรวจสอบอีก ซึ่งที่ผ่านมามีการชี้แจงไปแล้วโดยบอร์ด สปสช.
ผู้สื่อข่าวถามว่า การถูกย้ายเบื้องต้นอาจเป็นเพราะการบริหารงบผิดประเภทที่ คตร.เคยระบุไว้ นพ.วินัย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องขอเห็นหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการก่อน แต่ที่ผ่านมาไม่เคยถูกกล่าวหาว่าทุจริต การตรวจสอบที่เกิดขึ้นเป็นการตรวจสอบการใช้ดุลพินิจในการใช้อำนาจของบอร์ด สปสช. ในการกำหนดหลักเกณฑ์การบริหารกองทุน เช่น มาตรา 18 (4) กรณีจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ให้บริการ ส่วนการทำหน้าที่ของเลขาธิการก็ให้ความร่วมมืออย่างดีในเรื่องการตรวจสอบมาตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่าการทำงานที่ผ่านมา มาจากมติบอร์ด สปสช. เลขาธิการไม่ควรเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบใช่หรือไม่ นพ.วินัย กล่าวว่า เรื่องกติกา ระเบียบต่างๆ ที่กำหนดในการบริหารจัดการ เป็นมติของบอร์ดหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนฯ เมื่อปี 2546 มี รมว.สธ. มาเป็นประธานบอร์ดหลายคนร่วม 14-15 คน แต่ละบอร์ดที่มีมติออกมาก็เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ดังนั้น หากจะมีการปรับปรุงในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ได้พูดคุยกันว่า จะต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ให้บริการมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาถือเป็นช่องว่างมาตลอด
"ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ทำหน้าที่เลขาธิการ สปสช. ได้ทุ่มเททำงานเพื่อพัฒนาระบบบัตรทอง เพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงานในระดับดีเยี่ยม หรือ A ติดต่อกันทุกปี ทำให้ สปสช.ได้รับรางวัลการบริหารกองทุนหมุนเวียนดีเด่นจากกรมบัญชีกลางติดต่อกันถึง 6 ปี และที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีปัญหาการทำหน้าที่เลขาธิการ ผมเคารพในคำสั่งโยกย้าย แต่การใช้มาตรา 44 นี้เป็นการย้ายด้วยวิธีพิเศษ ที่ควรจะเป็นไปเพราะบุคคลมีปัญหาทุจริต ประพฤติมิชอบ หากปล่อยไปจะเกิดความเสียหาย หรือไร้ความสามารถ แต่เมื่อไม่มีเหตุเช่นนั้น เพราะไม่ถูกกล่าวหา จึงไม่ทราบว่ามีสาเหตุจากอะไร จึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง อย่างไรก็เสีย สำหรับคนที่จะมารักษาการเลขาธิการสปสช.นั้น คงต้องรอมติบอร์ดสปสช. ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 6 ก.ค.นี้" นพ.วินัย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมน้ำตาคลอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การย้ายอาจเพื่อให้ดูเป็นธรรมกับ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดสธ.ที่ถูกย้ายไปก่อนหน้านี้ นพ.วินัย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่เรื่องการบริหารงบ สปสช. น่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน คงต้องไปถามผู้ที่มีอำนาจโดยตรง เรื่องนี้ไม่ทราบจริงๆ
เมื่อถามว่ามีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าการย้ายครั้งนี้ ควรย้ายประธานบอร์ด สปสช.มากกว่า นพ.วินัย กล่าวว่า ไม่ทราบ และเมื่อถามอีกว่าเลขาธิการ สปสช.เป็นเหยื่อครั้งนี้หรือไม่ นพ.วินัย ไม่ตอบ แต่หัวเราะเท่านั้น นอกจากนี้ ยังถามว่าคิดว่าจะได้กลับมาทำงานที่ สปสช. อีกหรือไม่ นพ.วินัย กล่าวว่า หากทุกอย่างมีการตรวจสอบแล้วเสร็จ ข้อเท็จจริงปรากฏ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะตนจะหมดวาระใน พ.ค.2559
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
